จิม แครเมอร์(Jim Cramer) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินชื่อดังจาก CNBC สหรัฐฯ จุดประกายความเคลื่อนไหวในกลุ่มหุ้นธีมคริปโตอีกระลอก หลังออกมาแนะนำคำศัพท์ใหม่ 'PARC' ผ่านโซเชียลมีเดีย X (ชื่อเดิม Twitter) โดยคำนี้เป็นการผสมชื่อหุ้นจาก 4 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมบล็อกเชนและคริปโต ได้แก่ คอยน์เบส(COIN), โรบินฮู้ด(HOOD), แอฟฟ์โลวิน(APP) และพาลานเทียร์(PLTR) ซึ่งต่างมีบทบาทในโลกสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบที่ต่างกัน
แครเมอร์ตั้งคำถามว่า “PARC หรือ CARP อะไรดีกว่ากัน?” ซึ่งแม้จะดูเป็นคำพูดแบบเล่นๆ แต่ดูเหมือนจะสะท้อนความหมายลึกซึ้งบางอย่าง เหมือนที่เขาเคยประดิษฐ์คำว่า ‘FAANG’ (เฟซบุ๊ก, อเมซอน, แอปเปิล, เน็ตฟลิกซ์, กูเกิล) จนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของหุ้นเทคโนโลยี ยิ่งไปกว่านั้น บางนักวิเคราะห์มองว่า การกล่าวถึง ‘PARC’ ในครั้งนี้ อาจบ่งชี้ถึงมุมมองบวกต่อหุ้นกลุ่มคริปโตที่กำลังกลับมาได้รับความนิยม
คอยน์เบส(COIN) ถือเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม โดยในปี 2025 นี้ ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 50% ได้แรงหนุนจากตลาดบิตคอยน์(BTC)ที่กำลังอยู่ในขาขึ้น ส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพิ่มขึ้น ล่าสุด ธนาคารกลางเช็กยังตัดสินใจเข้าถือหุ้นคอยน์เบสมูลค่า 18 ล้านดอลลาร์ หรือราว 250 ล้านบาท จุดนี้ยิ่งสร้างแรงหนุนให้กับมุมมองบวกของนักลงทุน
ด้านโรบินฮู้ด(HOOD) ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต โดยนอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นแบบไม่คิดค่าธรรมเนียมแล้ว ยังให้บริการ 'สเตกกิ้ง' สำหรับคริปโตยอดนิยมอย่าง โซลานา(SOL) และอีเธอเรียม(ETH) ด้วยเช่นกัน ส่วนพาลานเทียร์(PLTR) บริษัทด้านซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำงานกับหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ ก็กำลังพัฒนาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการบริหารข้อมูล
ในรายการล่าสุดของแครเมอร์เอง เขายังกล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนในวอลล์สตรีทด้วยถ้อยคำที่น่าสนใจว่า “ดีลใหญ่ๆ มักไม่เกิดขึ้นแบบปุบปับ แต่ค่อยๆ เหมือนคลื่นเล็กๆ ripple” ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ นี้โดนตีความในหมู่นักลงทุนคริปโตว่าอาจมีความเกี่ยวโยงทางภาษา (และอาจโดยนัย) กับเหรียญริปเปิล(XRP) ด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์บางรายยังสังเกตว่า ท่าทีล่าสุดของแครเมอร์ที่ดูเป็นกลางหรือแม้แต่หนุนคริปโต อาจมีผลต่อจิตวิทยาตลาดไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับอดีตที่เขาแสดงท่าทีไม่ไว้วางใจสินทรัพย์ดิจิทัลมาตลอด แม้จะมีความสัมพันธ์ในทางการเมืองกับทรัมป์อยู่ก็ตาม
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับแนวคิด PARC ผู้ใช้บางรายใน Xแสดงความเห็นเชิงเย้ยหยันว่า “CRAP อาจเหมาะกว่าด้วยซ้ำ” และยังมี ‘นักลงทุนสายอินเวอร์ส’ ที่ใช้กลยุทธ์ตรงกันข้ามกับสิ่งที่แครเมอร์แนะนำ จนเรียกกันว่า “อินเวอร์สแครเมอร์” โดยยกตัวอย่างครั้งหนึ่งที่เขาพูดว่า “จะลงเงินเดิมพันว่า เจมี ไดมอนจะไม่ยอมลงทุนคริปโต” แต่ข่าวกลับผิดเพี้ยนว่าเขาหนุนให้ เจมี ไดมอน เข้าถือคริปโตเต็มพอร์ตแทน
สุดท้ายแล้ว คำพูดหรือการตั้งชื่อหุ้นของแครเมอร์ อาจมีผลต่อราคาหุ้นคริปโตในระยะสั้น แต่การตีความยังขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละฝ่าย ทว่าชัดเจนว่า ‘PARC’ ได้จุดกระแสใหม่ให้กับหุ้นแนว 'มิมหุ้น' ในสายคริปโตที่อาจจะยังไปต่อได้อีกระยะ
ความคิดเห็น 0