แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต *บูลลิช(Bullish)* กำลังเตรียมยื่นคำร้องเพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก(NYSE) ซึ่งเคยเป็นที่จับตามองหลังได้รับ ‘การสนับสนุนจากทรัมป์’ เมื่อก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ บูลลิชเน้นความแตกต่างผ่าน *โมเดลการซื้อขายแบบมีสินทรัพย์รองรับ* ซึ่งช่วยดึงดูดความสนใจในวงกว้าง
บริษัทยังระบุว่าจะจดทะเบียนหุ้นสามัญภายใต้ *ตัวย่อ BLSH* โดยยังไม่กำหนดจำนวนหุ้นหรือราคาเสนอขายที่แน่นอน อย่างไรก็ดี จากแบบฟอร์มการยื่น F-1 ที่ส่งถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) มีการเปิดเผยว่า บริษัทจะให้สิทธิแก่ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในการซื้อหุ้นเพิ่มเติมภายใน *30 วัน* หลังการเปิดตัว IPO
ด้านผลการดำเนินงานบริษัทก่อนการเข้าตลาดก็ถูกเผยแพร่บางส่วน โดยในปีงบประมาณ 2024 บูลลิชทำกำไรสุทธิได้ราว *80 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,112 ล้านบาท)* ซึ่งถือว่าแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 กลับขาดทุนสุทธิมหาศาลถึง *349 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,841 ล้านบาท)* เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรได้ถึง 104.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,460 ล้านบาท) ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่า บริษัทอาจประสบความยากลำบากในการฟื้นความสามารถทำกำไรในระยะสั้น
แม้ผลประกอบการจะพลิกเป็นลบ แต่บริษัทก็เน้นย้ำถึงสถานะสภาพคล่องที่มั่นคง โดยระบุถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้มูลค่ามากกว่า *1.9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 26,410 ล้านบาท)* ซึ่งรวมถึง *บิตคอยน์(BTC), เหรียญสเตเบิลคอยน์ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ* ซึ่ง *ความคิดเห็น* มองว่า หากแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดคริปโตยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง ทรัพย์สินเหล่านี้อาจกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อเสถียรภาพทางการเงินของบูลลิชหลังการขายหุ้น
ในภาพรวม การเข้าตลาดของบูลลิชถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญของบริษัทคริปโตที่พยายามก้าวเข้าสู่ *วอลล์สตรีท* ท่ามกลางสภาวะที่สภาพแวดล้อมทางกฎระเบียบยังคงผันผวน การดำเนินกลยุทธ์ทางการเงินหลังการระดมทุน และความสัมพันธ์กับ SEC ต่อจากนี้ จึงอาจจะเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ ที่ชี้ชะตาความไว้วางใจจากนักลงทุนในอนาคต
ความคิดเห็น 0