Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) พุ่งแรง 35% ในเดือนเดียว นักลงทุนสถาบัน-ETF แห่หนุน เชื่อทะลุ $10,000 ได้

อีเธอเรียม(ETH) พุ่งแรง 35% ในเดือนเดียว นักลงทุนสถาบัน-ETF แห่หนุน เชื่อทะลุ $10,000 ได้ / Tokenpost

แม้ว่าอีเธอเรียม(ETH) จะเผชิญกับแรงขายในช่วงไม่นานมานี้ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังคงมองตลาดในภาพรวมด้วยท่าที ‘มองบวก’ โดยเฉพาะช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาของอีเธอเรียมพุ่งขึ้นมากกว่า 35% ซึ่งกระตุ้นความสนใจต่อสัญญาณบวกหลายประการ แม้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของ ETH จะยังตามหลังบิตคอยน์(BTC) แต่การขยายฐานผู้ใช้งานและการเข้ามาของสถาบันการเงินเป็นปัจจัยที่สนับสนุนแนวโน้มการฟื้นตัวของ ETH ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

หนึ่งในปัจจัยหลักคือ *ความสนใจจากวอลล์สตรีตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ* โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กองทุน ETF ที่ลงทุนในอีเธอเรียมมีเงินไหลเข้ามากถึง 2.12 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท) ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ 'ช็อกความต้องการ' นี้ยังสะท้อนไปยังฝั่งขององค์กรเอกชนด้วยเช่นกัน โดยบริษัทเกมเดิมพันกีฬาในสหรัฐ ชาร์ปลิงค์ เกมมิง (SharpLink Gaming) ได้ซื้ออีเธอเรียมสะสมมากถึง 280,000 เหรียญ ภายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม คิดเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์ (กว่า 1.2 แสนล้านบาท) จนขึ้นแท่นเป็นองค์กรที่ถือครอง ETH มากที่สุด แซงหน้าแม้แต่ *มูลนิธิอีเธอเรียม* โดยใช้เหรียญทั้งหมดเพื่อทำการสเตก (Staking) และมีรายได้ต่อสัปดาห์ระดับหลายสิบล้านบาท

อีกบริษัทที่น่าจับตาคือ *บิตไมน์(Bitmine Immersion Technologies)* ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่มีสำนักงานใหญ่ในลาสเวกัส บริษัทได้พลิกโฉมโมเดลธุรกิจให้เน้นหนักที่อีเธอเรียม พร้อมเปิดตัวกองทุน ETH มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.47 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ บิตไมน์ยังได้ทาบทาม *ทอม ลี(Tom Lee)* จากฟันด์สแตรท ซึ่งเคยกล่าวว่า ‘บิตคอยน์จะขึ้นไปแตะ 1 ล้านดอลลาร์’ มาร่วมทีม ส่งผลให้มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง โดยหุ้นของบริษัททะยานขึ้นกว่า 3,000% ภายในเวลาไม่นาน

ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า จุดแข็งของอีเธอเรียมอีกด้านอยู่ที่ *กลยุทธ์การขยายขีดความสามารถผ่าน Layer 2* มากกว่ามุ่งพัฒนา Layer 1 ดั้งเดิม โดยมีโครงการสำคัญอย่าง เมนเทิล(MNT), โพลีกอน(POL), อาร์บิทรัม(ARB), ออปทิมิซึม(OP) และสตาร์คนเน็ต(STRK) ต่างกระจายรับกระแสเงินทุนบางส่วน แม้ปัจจัยนี้อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างทันทีทันใดไม่มากนัก แต่กลับสะท้อนความแข็งแกร่งของระบบนิเวศโดยรวมของ ETH ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง

ด้าน *อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes)* อดีตซีอีโอของบิทเม็กซ์(Bitmex) ระบุผ่านบล็อกของตนเองว่า “อีเธอเรียมจะทะลุ $10,000 (ราว 1.39 ล้านบาท)” พร้อมเสริมว่า “เช่นเดียวกับที่โซลานา(Solana) เคยฟื้นตัวกลับสู่ระดับ $280 หลังการล่มสลาย อีเธอเรียมก็กำลังถูกสถาบันการเงินมองว่าเป็น ‘เหรียญขนาดใหญ่ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น’”

เมื่อพิจารณาความเคลื่อนไหวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น *การไหลเข้าของเงินทุนกลุ่ม ETF, การขยายสเตกขององค์กร, ความเชื่อมั่นจากสถาบัน, หรือการเติบโตของโครงการ Layer 2* ต่างล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมแรงต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในระยะต่อไปของอีเธอเรียม แม้ราคาจะยังผันผวนในระยะสั้น แต่ *แนวโน้มเชิงโครงสร้างที่แข็งแกร่งก็ยังอยู่ครบ* โดยนี่คือมุมมองที่ครอบงำอยู่ในวงการคริปโต ณ ขณะนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1