ในเวทีการชำระเงินระดับโลก ‘สเตเบิลคอยน์’ กำลังขยายบทบาทขึ้นอย่างชัดเจน โดยล่าสุด ริปเปิล(XRP) ได้เผยรายงาน ‘2025 New Value Report’ ที่ชี้ว่า สเตเบิลคอยน์จะเป็น ‘สินทรัพย์หลัก’ ในโครงสร้างการชำระเงินยุคใหม่ ทั้งในด้านการทำธุรกรรมระหว่างองค์กร (B2B), การชำระเงินของผู้บริโภค และระบบการจ่ายเงินในซัพพลายเชน
สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี ‘ความมั่นคงด้านราคา’ โดยผูกกับสกุลเงินธรรมชาติ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ตัวอย่างที่เด่น ได้แก่ *USDT*, *USDC* และ *RLUSD* ซึ่งกำลังได้รับการบูรณาการมากขึ้นในระบบวอลเล็ตและการชำระเงินที่ใช้บล็อกเชน โดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่ที่ประสบกับความผันผวนของค่าเงิน สเตเบิลคอยน์สามารถเข้ามาเป็นทางเลือกที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ตามรายงานของริปเปิล นักวิเคราะห์การเงินมองว่า บทบาทของสเตเบิลคอยน์จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในด้าน ‘การชำระเงินข้ามพรมแดน’, การจ่ายเงินระดับองค์กร และการชำระบัญชีกับผู้ผลิต สำหรับ *RLUSD* ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ของริปเปิลนั้น ได้รับการสนับสนุนด้วยเงินสดและทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูง และถูกฝังอยู่ในแพลตฟอร์ม ‘ริปเปิล เพย์เมนต์ (Ripple Payments)’ ซึ่งเปิดทางให้รองรับการชำระเงินกับบุคคลที่สามในตลาดทั่วโลก
ตลอดจนสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมก็เริ่มขยับตัว ตัวอย่างเช่น วีซ่า(Visa) เริ่มใช้งานระบบชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ตั้งแต่ปี 2023 และจนถึงตอนนี้ ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 225 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,132 ล้านบาท) โดยมูลค่าการซื้อขายคริปโตฯ ผ่านระบบนี้ทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านล้านบาท) ขณะที่มาสเตอร์การ์ด(Mastercard) ก็ผนวกสเตเบิลคอยน์เข้ากับระบบของตนเช่นกัน ส่วนเวิลด์เพย์(WorldPay) เตรียมให้บริการการชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์แก่บริษัททั่วโลก
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้สะท้อนถึง ‘ความพยายามลดอุปสรรคของการโอนเงินทั่วโลก’ ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด เช่น ความล่าช้าของระบบ ค่าธรรมเนียมสูง และโครงสร้างตัวกลางที่ไม่ยืดหยุ่น สเตเบิลคอยน์สามารถช่วยให้ติดตามและชำระเงินได้ใน ‘เกือบเรียลไทม์’ พร้อมใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ
มูลค่าของตลาดก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ตามข้อมูลจาก DefiLlama ณ ต้นปี 2024 มูลค่ารวมของตลาด *สเตเบิลคอยน์* อยู่ที่ราว 130,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 180.7 ล้านล้านบาท) และปัจจุบันทะลุ 265,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 368.5 ล้านล้านบาท) ไปแล้ว แสดงให้เห็นว่า ‘สเตเบิลคอยน์กำลังกลายเป็นเครื่องมือการชำระเงินกระแสหลัก’ ในอุตสาหกรรมคริปโตฯ และการเงินโลกอย่างเต็มตัว
ความคิดเห็น 0