ข้อเสนอใหม่ที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าระบบ ‘เครื่องจักรเสมือนของอีเธอเรียม’ หรือ EVM กำลังได้รับความสนใจจากทั้งชุมชนคริปโตและนักพัฒนา หลังจากที่ วิตาลิก บูเตอริน เสนอนำ ‘RISC-V’ ซึ่งเป็นชุดคำสั่งแบบโอเพ่นซอร์สมาใช้แทนโครงสร้างเดิม เพื่อเตรียมรับมือกับความต้องการการขยายระบบในระยะยาว โดยเขากล่าวว่า *การปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างอย่างรอบด้าน* อาจเป็นทางออกที่จำเป็น
EVM ถือเป็นหัวใจหลักของการทำงานของสมาร์ตคอนแทรกต์บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) แต่ถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่องว่าไม่ตอบโจทย์ด้านต้นทุนการประมวลผลในยุคที่การขยายผ่านโซลูชันแบบ ‘zk-rollup’ กำลังได้รับความนิยม ในทางตรงกันข้าม RISC-V อาจช่วยเพิ่มความเร็วในการสร้าง zk-proof ได้ถึง 100 เท่า *ตามคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญ* อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องแปลงโค้ด Solidity ไปกลับเหมือนในระบบปัจจุบัน ส่งผลให้ด้านประสิทธิภาพโดยรวมสามารถดีขึ้นอย่างชัดเจน
แม้ข้อเสนอ RISC-V จะดูน่าสนใจ แต่ปัญหาในเชิงการนำไปใช้งานจริงยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ สจวร์ต โพปจอย ซีอีโอของคาเดนา(Kadena) กล่าวว่า “ระบบใหม่ต้องทำงานคู่ขนานกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมนานหลายปี” พร้อมชี้ว่า การเปลี่ยนเครือข่ายให้รองรับระบบใหม่นั้น *แทบเป็นไปไม่ได้ในระยะสั้น* เขายังเตือนว่า แม้จะเชื่อมั่นใน *ศักยภาพเชิงเทคนิคของ RISC-V* แต่ยังต้องระวังผลกระทบต่อ *ความรู้ความเข้าใจด้านความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของสมาร์ตคอนแทรกต์* ที่เครือข่ายอีเธอเรียมได้สั่งสมมาตลอดหลายสิบปี
เพราะสมาร์ตคอนแทรกต์ถูกออกแบบให้แก้ไขไม่ได้ตามหลัก ‘ไม่เปลี่ยนแปลง’ ของบล็อกเชน การเปลี่ยนระบบจำเป็นจะต้องรื้อและตรวจสอบใหม่ทั้งหมด ขณะเดียวกันยังมีปัญหาความเข้ากันได้กับโซลูชันเลเยอร์ 2 อย่างออพทิมิซึม(OP) และอาร์บิทรัม(ARB) ที่ยังพึ่งพา ‘EVM bytecode’ หากเปลี่ยนเป็น RISC-V อาจทำให้ระบบไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทันที
แม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเห็นตรงกันว่า *ควรใช้แนวทางที่ค่อยเป็นค่อยไป* นักวิจัย เบลสซิง โอนูโอกู กล่าวว่า “โมเดลที่สนับสนุนทั้ง EVM และ RISC-V ไปพร้อมกันน่าจะเป็นทางเลือกเดียวที่ใช้ได้ในช่วงเริ่มต้น” และเน้นว่าควร *ย้ายระบบอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่กระทบแอปที่มีอยู่* คล้ายกับช่วงที่ zk-rollup เริ่มถือกำเนิด
ในเวลาเดียวกัน นักพัฒนาบางคนเริ่มมองไปที่คอมไพเลอร์แบบใหม่อย่าง ‘LLVM IR’ และ ‘WebAssembly’ ที่อาจเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับโครงสร้างระบบสมัยใหม่ Block.nm นักพัฒนาในวงการบล็อกเชนกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะเลิกพึ่งพาเพียง Solidity และหันไปลงทุนใน *สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์และระบบพิสูจน์ข้อมูลที่ยืดหยุ่น*”
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลายหมื่นบนอีเธอเรียม และสินทรัพย์มากกว่าสิบล้านล้านบาท การเปลี่ยนระบบไม่สามารถทำได้แบบปุบปับ นักพัฒนาจึงเลือกกลยุทธ์ ‘ทดลองขนานและเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป’ โดยล่าสุดในการเสนอ EIP-7983 ก็มีการเสนอจำกัดค่าก๊าซต่อธุรกรรม เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการกระจายบล็อกและลดภาระการประมวลผล
ข้อเสนอของ RISC-V อาจไม่ใช่ ‘ทางออกครอบจักรวาล’ แต่เป็น ‘สัญญาณที่ชัดเจน’ ว่าเครือข่ายอีเธอเรียมไม่ได้พึ่งพาเพียงระบบเดิม แต่พร้อมเดินหน้าสำรวจแนวทางใหม่ ท่ามกลางการเติบโตของคู่แข่งอย่างโซลานา(SOL), ซุย(SUI) และระบบโรลอัปแบบโมดูลาร์รายต่างๆ ความจำเป็นในการ *ยกระดับโครงสร้างตั้งแต่รากฐาน* กำลังเพิ่มขึ้น
วิตาลิก บูเตอริน ผ่านข้อเสนอล่าสุดนี้ ไม่ได้แค่ชี้แนวทางปรับเปลี่ยน แต่เสนอ *วิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของอีเธอเรียมในระยะยาว* แม้ต้องใช้เวลากว่าทศวรรษเพื่อไปถึงจุดนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ *การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มขึ้นแล้ว*
ความคิดเห็น 0