มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง พอล ทิวเดอร์ โจนส์(Paul Tudor Jones) แสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดการเงินสหรัฐยังไม่เข้าสู่ภาวะฟองสบู่ พร้อมชี้ว่าความน่าสนใจในการลงทุนใน *สินทรัพย์เสี่ยง* เช่น บิตคอยน์(BTC) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการคลังของรัฐบาลสหรัฐ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และกระแสเงินทุนที่หลั่งไหลเข้าจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
พอล เผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันยังคงสนับสนุนการเติบโตในตลาดหุ้นสหรัฐ แต่การจะไปถึงจุดสูงสุดของวัฏจักรตลาดได้แท้จริง จำเป็นต้องเห็นการมีส่วนร่วมอย่างแพร่หลายจากทั้งบุคคลทั่วไปและนักลงทุนมืออาชีพ สิ่งที่โดดเด่นในรอบนี้คือ แรงผลักดันของตลาดไม่ได้มาจากการดีดตัวชั่วคราว แต่เป็น ‘*โมเมนตัมเชิงเก็งกำไรแบบต่อเนื่อง*’ ซึ่งส่งผลให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างหุ้นเทคและคริปโตน่าสนใจยิ่งขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามองคือ *ปัญหาหนี้สินสาธารณะของสหรัฐ* ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในร่างกฎหมายที่ถูกขนานนามว่า ‘One Big Beautiful Bill’ เพื่อขยายเวลามาตรการลดภาษี พร้อมกับปรับเพิ่มเพดานหนี้ ส่งผลให้สำนักงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ(CBO) คาดการณ์ว่าจะมีการขาดดุลงบประมาณสะสมสูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 2,919 ล้านล้านวอนภายในปี 2029 ความตึงเครียดด้านการคลังนี้ อาจผลักดันให้กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ *สินทรัพย์เสี่ยงประเภท ‘Risk-on’* อย่างเช่น *บิตคอยน์* มากขึ้น แทนที่จะเลือกสินทรัพย์ปลอดภัย
พอลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดยังไม่ได้เข้าสู่จุด *ฟองสบู่สูงสุด* พร้อมให้มุมมองว่า “ภาวะฟองสบู่ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักลงทุนทุกคนเริ่มรู้สึกว่า ‘นี่มันบ้าไปแล้ว’ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ใช่” เขาเชื่อว่านโยบายขยายตัวของปริมาณเงินในระบบ และความต้องการของภาคเอกชนในการป้องกันความเสี่ยง จะกลายเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ *บิตคอยน์ในฐานะทองคำดิจิทัล* กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์หลักอย่างมั่นคง
*ความคิดเห็น:* การที่นักลงทุนระดับตำนานออกมาสนับสนุนแนวคิดว่าบิตคอยน์จะเติบโตได้ภายใต้ระบบเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ยิ่งสะท้อนให้เห็นบทบาทของคริปโตในฐานะ ‘ทางเลือก’ ที่ไม่ควรมองข้าม
ความคิดเห็น 0