ธนาคารกลางมาเลเซียเดินหน้าสู่โลกดิจิทัล เปิดโรดแมป 3 ปีปฏิวัติสินทรัพย์ด้วยบล็อกเชน

ธนาคารกลางมาเลเซียเดินหน้าผลักดันการแปลงสินทรัพย์เป็นดิจิทัลทั่วทั้งระบบการเงิน ด้วยการเปิดเผย “โรดแมปการโทเคนสินทรัพย์ดิจิทัล” ระยะเวลา 3 ปี ซึ่งถือเป็นการก้าวแรกสู่การพัฒนาระบบการเงินใหม่ตามแนวทางของการเงินโลก ยุทธศาสตร์สำคัญนี้อาศัยการนำ ‘สินทรัพย์จริง’ มาเปลี่ยนเป็นโทเคนบนบล็อกเชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการเข้าถึงทางการเงิน

เมื่อวันที่ 24 ธนาคารกลางแห่งมาเลเซีย หรือ ‘ธนาคารเนการา มาเลเซีย(BNM)’ ประกาศว่าแผนดำเนินการนี้จะมีศูนย์นวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Innovation Hub: DAIH) ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อต้นปี เป็นศูนย์กลางในการทดลองและทดสอบแนวคิดใหม่ๆ ทั้งในรูปแบบการพิสูจน์แนวคิด (POC) และการทดสอบใช้งานจริง

แผนดังกล่าวยังรวมถึงการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานสำหรับอุตสาหกรรมโทเคนสินทรัพย์ (IWG) โดยร่วมมือกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์มาเลเซีย (SC) เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างภาคส่วน ตลอดจนจัดการกับประเด็นทางกฎหมายและข้อกำกับดูแล โดยในการเริ่มต้นกลุ่มนี้จะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่สามารถพิสูจน์มูลค่าทางเศรษฐกิจได้ชัดเจน

ทาง BNM ยืนยันอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายของการโทเคนครั้งนี้ไม่ใช่สกุลเงินคริปโตอย่างบิตคอยน์(BTC) หรืออีเธอเรียม(ETH) แต่คือ ‘สินทรัพย์จริง’ เช่น การนำการเงินซัพพลายเชนมาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SME) การใช้ระบบบริหารสภาพคล่องเพื่อเร่งกระบวนการชำระเงิน และการทำธุรกรรมการเงินอิสลามแบบอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็น ‘การใช้จริง’ ที่เป็นรูปธรรม ตัวอย่างอื่นเช่น ระบบการชำระเงินแบบมีโปรแกรม การเงินสีเขียว และการโอนชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์

ในโรดแมปยังระบุถึงแผนการวิจัยเกี่ยวกับการสร้างเงินฝากและสเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงมูลค่ากับริงกิตมาเลเซีย(MYR) โดยเน้นความสำคัญของการรักษาคุณลักษณะ ‘หนึ่งเดียวของเงิน’ (singleness of money) ที่จะช่วยให้ระบบการชำระเงินยังคงมีเสถียรภาพ แม้จะถูกแปลงเข้าสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ BNM ยังเตรียมพิจารณาความเป็นไปได้ในการรวมสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับภาคการเงินสถาบันที่เป็นระบบแบบ ‘วอลเซล’

BNM กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการวาง ‘พื้นฐานให้แข็งแกร่ง’ สำหรับนวัตกรรมทางการเงิน พร้อมเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อเร่งพัฒนา ‘ระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล’ ภายในประเทศให้ขึ้นมาเป็นผู้นำในภูมิภาค “ความคิดเห็น” หากโรดแมปนี้สามารถนำไปใช้อย่างเป็นรูปธรรมได้จริง มาเลเซียอาจกลายเป็นศูนย์กลางการเงินเชิงบล็อกเชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้