CLANKER พลิกโฉมจากมีมโทเคน สู่เครื่องจักรสร้างรายได้หลัง Farcaster เทกฯ หนุนตลาดทะลุพันล้านดอลลาร์

CLANKER กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง หลังการเข้าซื้อกิจการของฟาร์แคสเตอร์(Farcaster) เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม โดยกลายเป็นมากกว่าแค่ 'มีมโทเคน' หรือเหรียญเล่นสนุกทั่วไป แต่พัฒนาขึ้นสู่การเป็น ‘เครื่องจักรสร้างกระแสเงินสด’ ตามรายงานของบริษัทวิจัย อเลอา รีเสิร์ช(Alea Research) ซึ่งชี้ว่าเมคานิซึมของ CLANKER ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมโครงสร้างรายได้แบบพึ่งพาการใช้งาน กำลังเป็นตัวบ่งชี้เทรนด์ใหม่ในตลาดโทเคน

ภายหลังถูกนิยามให้เป็นโทเคนประจำระบบของฟาร์แคสเตอร์ CLANKER ได้เพิ่มกลไก *การซื้อคืนโดยอัตโนมัติ* จากรายได้ค่าธรรมเนียมของโปรโตคอล ซึ่งหมายถึงทุกการใช้งานบนแพลตฟอร์มจะสร้างรายได้เพื่อกลับมาซื้อ CLANKER โดยตรง นำไปสู่การเสริม *มูลค่าภายใน* ของสกุลเงินดิจิทัลนี้อย่างมีนัยสำคัญ

รายงานยังเปิดเผยว่า เมื่อฟาร์แคสเตอร์เข้าซื้อ CLANKER ความสามารถในการสร้างสภาพคล่องและการใช้งานในระบบก็เพิ่มสูงขึ้น ถึงระดับที่สามารถรองรับมูลค่าตลาด (Market Cap) เกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ หลังการประกาศข่าวเพียง 2 วัน มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นกว่า 20,000 ราย และมีรายได้ไหลเวียนผ่านโทเคนเกิน 400,000 ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน โทเคนส่วนหนึ่งที่เคยเก็บสะสมจากค่าธรรมเนียมถูก 'เผา' (Burn) ทิ้ง และมี CLANKER ประมาณ 7% ของทั้งหมดถูกล็อกไว้ในพูลสภาพคล่องแบบเดี่ยว จึงยิ่งเพิ่มคุณลักษณะ ‘ความหายาก’ ของเหรียญ

โครงสร้างซื้อคืนอัตโนมัติของ CLANKER ยังเกี่ยวโยงกับการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ของ Coinbase ที่ชื่อว่า x402 ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานแบบออนเชน ส่งผลให้ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์สร้างรายได้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดหลังปี 2024 โดยรายงานของอเลอา รีเสิร์ชชี้ว่า CLANKER สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมเฉลี่ยวันละ 600,000 ดอลลาร์ และมีปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านดอลลาร์ กลไกนี้ขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติแบบโทเคนบอท (Tokenbot) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบกำลังดำเนินไปแบบเรียลไทม์

อีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นความสนใจคือ การที่ CLANKER ได้ถูกนำไปเปิดซื้อขายแบบสัญญาฟิวเจอร์สไม่มีวันหมดอายุ (perpetual futures) บนกระดานซื้อขายต่างประเทศของ Coinbase โดยการเคลื่อนไหวนี้ช่วยขยายสภาพคล่องและเพิ่มความผันผวนของราคา ซึ่งแม้อาจดูเป็นปัจจัยของนักเก็งกำไรระยะสั้น แต่รายงานชี้ว่าความต้องการ CLANKER แบบ ‘ถือยาว’ เพื่อสะสมในพอร์ต อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว

CLANKER ยังถูกจัดประเภทใหม่ภายใต้กลุ่มโทเคนที่เรียกว่า *แอปคอยน์(Appcoin)* ซึ่งหมายถึงเหรียญที่ขับเคลื่อนผ่านแอปเดียวแบบเฉพาะตัว ต่างจากแพลตฟอร์มอย่างฟาร์แคสเตอร์หรือ ZORA ที่ไม่มีโทเคนเป็นของตัวเอง CLANKER จึงเป็นโทเคนเดียวที่สามารถใช้ทำรายได้จากระบบนิเวศของฟาร์แคสเตอร์ได้ อเลอา รีเสิร์ช จึงมองว่า CLANKER คือ “ทางเลือกหลัก” ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าไปมีบทบาทในระบบของเครือข่ายเบส(Base) ได้โดยตรง

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงพัฒนาการของ CLANKER จากเพียงมีมโทเคน สู่การเป็นสินทรัพย์เชิงโครงสร้างที่มีรายได้จริงรองรับ ด้วยการไหลเวียนของผู้ใช้ ค่าธรรมเนียม และกลไกการสะสมทุนแบบยั่งยืน ด้วยสัดส่วนสองในสามของรายได้จากฟาร์แคสเตอร์ที่ถูกนำมาใช้ซื้อคืนเหรียญโดยอัตโนมัติ CLANKER กำลังสร้างระบบเศรษฐกิจย่อยขึ้นในแอปคอยน์ และกลายเป็นตัวชูโรงสำคัญในโครงสร้างโทเคนยุคใหม่ในปี 2024 ขึ้นไป.