เควัน รีเสิร์ช(K1 Research) เผยแพร่รายงานที่ชี้ว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอนุพันธ์ไร้กำหนดในรูปแบบกระจายศูนย์ (Perp DEX) เป็นผลจากปัญหาความเชื่อมั่นในตลาดแบบรวมศูนย์(CEX) และข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง โดยเน้นให้จับตาโครงการ LeverUp ในฐานะผู้บุกเบิกนวัตกรรมใหม่ในวงการ DeFi
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไร้กำหนดได้รับความนิยมในตลาดคริปโต เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหมดอายุ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนเดิมพันราคาทิศทางของสินทรัพย์โดยไม่ต้องถือสินทรัพย์ดังกล่าวจริง ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้เงินทุนสูงขึ้น จนถึงเดือนตุลาคม ปี 2025 ปริมาณซื้อขายรายเดือนของ Perp DEX มีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงดีมานด์ในตลาดที่ต้องการการซื้อขายแบบมีเลเวอเรจสูงและเสรีภาพในการควบคุมมากขึ้น
รายงานของเควัน รีเสิร์ชอธิบายว่า การเติบโตของ Perp DEX เกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1) ความไม่ไว้วางใจต่อ CEX ที่เกิดจากการบิดเบือนข้อมูล ปรากฏการณ์ wick และการอายัดเงินตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับ 2) ความเชื่อมั่นในโครงสร้าง DeFi ที่เพิ่มขึ้นภายหลังกรณีล่มสลายของ FTX และ 3) การเกิดขึ้นของ Perp DEX ประสิทธิภาพสูง เช่น Hyperliquid ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานใกล้เคียงกับ CEX
ท่ามกลางแนวโน้มนี้ LeverUp ได้รับความสนใจจากการเป็นโครงการที่เข้ามาแก้ไขข้อจำกัดของ Perp DEX แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในด้านความเสี่ยงของผู้ให้บริการสภาพคล่อง(LP) และข้อจำกัดในการแบ่งรายได้ LeverUp เลือกสถาปนากลไก ‘ไร้ LP’ หรือ ‘LP-Free’ เพื่อกำจัดความสูญเสียจากความผันผวนในรูปแบบไม่ถาวร(IL) และการเปิดรับตลาดแบบไม่ตั้งใจในระบบเดิม ด้วยการที่โปรโตคอลทำหน้าที่จัดหาสภาพคล่องเอง LeverUp จึงสามารถรองรับปริมาณเงินทุนขนาดใหญ่ภายใต้โครงสร้าง ‘เปิดสถานะไม่จำกัด(โอเพ่นอิ้นเทอเรสต์)’ ขณะเดียวกัน กำไรจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายและการชำระล้างทั้งหมดจะคืนให้ผู้เทรด 100% ชูแนวทาง ‘คืนคุณค่าให้ผู้ใช้’
ระบบการซื้อขายของ LeverUp ขับเคลื่อนด้วยเหรียญสเตเบิล LVUSD ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และรักษาเสถียรภาพของวงจรการชำระเงินและรายได้ให้อยู่ในระบบเดียว นอกจากนี้ เควัน รีเสิร์ชระบุว่า LVUSD ได้รับการออกแบบให้ตรึงราคาที่ 1 USDC โดยอาศัยกลไกการประมูลและการปรับสมดุลตลาดภายในโปรโตคอลโดยไม่พึ่ง LP หรือผู้รับฝากสินทรัพย์
โครงสร้างทั้งหมดของ LeverUp ดำเนินการบนเครือข่ายความเร็วสูง Monad ซึ่งสามารถประมวลผลมากกว่า 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที พร้อมค่าธรรมเนียมต่ำ รองรับการจับคู่คำสั่งซื้อขายแบบเรียลไทม์ เหมาะกับนักเทรดที่ต้องการความเร็วสูง ปัจจัยเสริม เช่น เลเวอเรจระดับ 1,001 เท่า และระบบจัดการความเสี่ยงผ่านพูลแยก ทำให้ LeverUp สร้างสมดุลระหว่างความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์และเสถียรภาพในการใช้งาน
ในด้านโทเคน LeverUp ใช้ระบบจูงใจแบบหลายมิติ ด้วยการแบ่งโทเคน LV ออกเป็นหน่วย xLV สำหรับผู้สเตกเพื่อรับรายได้จากโปรโตคอลเป็น USDC และ yLV สำหรับผู้ให้สภาพคล่องที่ได้รับผลตอบแทนจากการซื้อคืนและทบต้น โดยมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พร้อมเปลี่ยนพฤติกรรมการถือโทเคนให้มีมูลค่าในรูปแบบรายได้ที่จับต้องได้
เป้าหมายสูงสุดของ LeverUp คือการหลอมรวม ‘ประสิทธิภาพระดับ CEX’, ‘โครงสร้าง DeFi อย่างแท้จริง’ และ ‘การคืนคุณค่าให้ผู้ใช้’ เข้าด้วยกัน เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบตลาดอนุพันธ์ไร้กำหนดแบบกระจายศูนย์ LeverUp จึงมีศักยภาพในการเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ประสบความสำเร็จในโมเดลไร้ LP พร้อมเปิดรับการเชื่อมต่อกับโปรโตคอล DeFi อื่นในอนาคต
เควัน รีเสิร์ชสรุปว่า LeverUp ไม่เพียงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมฟังก์ชัน แต่ยังปฏิรูปภาพรวมของโครงสร้างตลาด Perp DEX ทั้งในมิติของโทเคนอีโคโนมี เสถียรราคา โครงสร้างสภาพคล่อง และประสิทธิภาพการจับคู่ธุรกรรม หากโครงการประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็นต้นแบบในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ให้แก่วงการ DeFi ทั่วโลกในอนาคต ความคิดเห็น: LeverUp กำลังนำพา DeFi เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยโครงสร้างไร้ตัวกลางโดยแท้จริง พร้อมระบบคืนกำไรที่ชัดเจนให้กับผู้ใช้งาน
ความคิดเห็น 0