ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสเตรทิจี(Strategy) ออกมาปฏิเสธข่าวลือการขายบิตคอยน์(BTC) ครั้งใหญ่จำนวนราว 47,000 BTC พร้อมชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง หลังเกิดกระแสตื่นตระหนกจากข้อมูลออนเชนที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์
เมื่อวันที่ 14 เซย์เลอร์ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter) โดยระบุว่า “ข่าวลือที่ว่าบริษัทเราขายบิตคอยน์นั้นไม่เป็นความจริง” ถือเป็นคำชี้แจงโดยตรงจากเจ้าตัว หลังบัญชีอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้ชื่อว่า ‘Walter Bloomberg’ อ้างว่า สเตรทิจีได้ขายบิตคอยน์ออกไปราว 47,000 BTC ซึ่งทำให้ยอดถือครองลดลงจากประมาณ 484,000 BTC เหลือเพียง 437,000 BTC โดยอ้างอิงข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อว่า Arkham
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Arkham เพียงแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนย้ายบิตคอยน์ออกจากกระเป๋าเงิน (wallet) แห่งหนึ่งเท่านั้น โดยไม่ได้ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นอย่างใด อาจเป็นการขายจริง การจัดการบัญชีภายใน หรือเพียงการโอนระหว่างกระเป๋าเงินของบริษัทเองเท่านั้น ทั้งนี้ เทคโนโลยีวิเคราะห์บล็อกเชนสามารถระบุการเคลื่อนไหวของเหรียญได้ แต่ไม่สามารถบอกเจตนาของธุรกรรมได้ชัดเจน
ตลอดช่วงที่ผ่านมา สเตรทิจีรักษากลยุทธ์ถือครองบิตคอยน์ในระยะยาว โดยมองว่าเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ ขณะที่เซย์เลอร์เองก็แสดงท่าทีสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ราคาตลาดปรับตัวลดลง *ความคิดเห็น* จึงมีเสียงจากผู้เชี่ยวชาญบางรายชี้ว่า ยอดถือครองที่ลดลงอาจไม่ได้หมายถึงการขายจริง
เหตุการณ์ในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการตีความข้อมูลออนเชนอย่างระมัดระวัง พร้อมกับการตระหนักถึงปัญหาการสร้าง FUD (ความหวาดกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย) ในวงการคริปโต ที่อาจเกิดจากการพึ่งพาข้อมูลเพียงด้านเดียว โดยปราศจากบริบทหรือการยืนยันอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น 0