ราคาของบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงต่ำกว่า 95,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,282.8 ล้านบาท) ท่ามกลางแรงขายจากฝั่งสหรัฐ จนส่งผลให้ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันอย่างหนักอีกครั้ง สถานการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การปรับฐานราคาชั่วคราว แต่มีลักษณะเป็นการ ‘ร่วงเชิงโครงสร้าง’ ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย ทำให้นักลงทุนจำนวนมากแสดงความกังวลเพิ่มขึ้น
ตามรายงานของ XWIN รีเสิร์ช บริษัทวิเคราะห์จากญี่ปุ่น ระบุว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี Coinbase Premium ได้อยู่ในแดนลบอย่างต่อเนื่อง หมายความว่าบิตคอยน์บนแพลตฟอร์มของ Coinbase ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนในสหรัฐ กำลังถูกซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ‘แรงขายจากนักลงทุนอเมริกัน’ กำลังสูงกว่านักลงทุนในประเทศอื่นจริงๆ ลักษณะที่พบคือเมื่อเข้าสู่ชั่วโมงเปิดทำการของตลาดสหรัฐ บิตคอยน์มักเผชิญแรงขาย กระทั่งทำให้ตลาดเอเชียและยุโรปที่เคยเห็นจังหวะฟื้นตัวต้องย่อตัวลงอีกครั้ง
การลดลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่จากนักลงทุนรายย่อยระยะสั้น แต่ยังรวมถึงผู้ถือครองระยะยาวที่ออกมาขายทำกำไรช่วงปลายปี ตามข้อมูลแบบออนเชน พบว่านักลงทุนที่ถือบิตคอยน์นานตั้งแต่ 6 เดือน จนถึงมากกว่า 7 ปี ต่างพากันขายเพื่อล็อกกำไร นักวิเคราะห์ วิล คลีเมนเต้ และ Fidelity ระบุว่าสถานการณ์นี้สะท้อนกลยุทธ์การขายเพื่อบริหารภาษี โดยนักลงทุนชาวอเมริกันเลือกขายเหรียญก่อนถึงช่วงรายงานภาษีในปี 2025 เพื่อลดภาระทางภาษี
ปัจจัยลบยังขยายตัวเมื่อรัฐบาลสหรัฐเผชิญภาวะ ‘ปิดหน่วยงานชั่วคราว’ ทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่หยุดชะงัก พร้อมกันนั้น ความหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมก็เริ่มหายไป ความไม่แน่นอนเชิงนโยบายและสภาพคล่องที่ลดลงยังส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดหุ้น, คริปโต และหุ้นที่เกี่ยวข้อง
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศตลาดแย่ลง คืออารมณ์ของนักลงทุนที่แปรปรวน โดยนักวิเคราะห์บนแพลตฟอร์ม X นามว่า MorenoDV_ ระบุว่า ค่า *MVRV ระยะสั้น* หรืออัตราระหว่างราคาตลาดกับราคาซื้อขายจริง สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.9 ซึ่งเคยเป็นจุดต่ำในช่วงวิกฤตคริปโตมาก่อน หากค่าดังกล่าวลดต่ำกว่า 0.9 อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงจุด ‘ฟื้นตัว’
ราคาบิตคอยน์ขณะนี้กำลังทดสอบระดับ *แนวรับหลัก* ที่ราว 95,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,294.3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นโซนที่เคยมีการซื้อขายอย่างคึกคักมาก่อน หากระดับนี้ถูกเจาะทะลุ อาจเกิดการร่วงลงถึงแนวรับถัดไปที่ 82,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,105.2 ล้านบาท) ได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน การไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 107,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,443.6 ล้านบาท) เมื่อต้นสัปดาห์ ยังบ่งชี้ว่าทิศทางของตลาดยังอยู่ในช่วง ‘กลับตัวล้มเหลว’ โดยปัจจุบันบิตคอยน์กำลังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน
แม้สถานการณ์จะดู ‘มืดมน’ แต่บางฝ่ายเริ่มมองว่าแรงขายในรอบนี้อาจสะท้อนเหตุผลตามฤดูกาล เช่น ความต้องการจัดการภาษีช่วงปลายปี, การฟื้นตัวของสภาพคล่อง และการคลี่คลายความไม่แน่นอนด้านนโยบาย หากประเด็นเหล่านี้คลี่คลายได้ ก็มีโอกาสที่ตลาดจะพลิกกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยความผันผวนที่ยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยฝั่งสหรัฐ นักวิเคราะห์เตือนว่า ‘ต้องระวังและจับตาอย่างใกล้ชิด’ ในช่วงที่เหลือของปี
ความคิดเห็น 0