บิตคอยน์(BTC) และตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์คืนกำไรทั้งหมดที่ได้รับในช่วงต้นปี ท่ามกลางความคาดหวังว่าการเปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีจะช่วยพยุงตลาด แต่แรงขายกลับครอบคลุมทั่วตลาด ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายออกมา
ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า บิตคอยน์เคยร่วงลงแตะระดับ 93,029 ดอลลาร์ หรือราว 1,217.7 ล้านบาทในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นการลดลงราว 25% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และหากเทียบกับระดับราคาเมื่อช่วงต้นปีที่ 93,507 ดอลลาร์ จะพบว่ากำไรสะสมตั้งแต่ต้นปีได้รับการลบล้างทั้งหมด
แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคาบิตคอยน์ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 94,209 ดอลลาร์ หรือราว 1,224.7 ล้านบาท แต่การปรับฐานในครั้งนี้ได้สะท้อนความเปราะบางของตลาดอย่างชัดเจน
สาเหตุหลักของการร่วงลงครั้งนี้ คาดว่าเกิดจาก “ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อาจขึ้นถึงจุดสูงสุด”, การขายทำกำไรของนักลงทุน และการปรับฐานของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์ที่มีความผันผวนสูง แม้จะมีแรงขายเพียงเล็กน้อย ก็สามารถผลักราคาลงได้มาก
ในช่วงต่อไป นักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญอย่างการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ รวมถึงความไม่แน่นอนทางนโยบายที่อาจเกิดขึ้นจากกระแสนิยมที่เพิ่มขึ้นของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้
*ความคิดเห็น:* ตลาดคริปโตในเวลานี้ยังต้องการแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานและการลงทุนสถาบัน หากไม่มีความเชื่อมั่นใหม่เข้ามา บิตคอยน์อาจเผชิญกับความผันผวนหรือการปรับตัวลงระลอกใหม่ในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0