บิตคอยน์(BTC) ชะลอการฟื้นตัวสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ จากความไม่แน่นอนในตลาดแรงงานสหรัฐ ความอ่อนแอของตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับภาวะร้อนแรงเกินไปของหุ้นกลุ่ม AI ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น และกระตุ้นให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บิตคอยน์พยายามทะลุแนวต้านที่ระดับ 92,250 ดอลลาร์ แต่ล้มเหลว และร่วงลงมา 2,650 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับฐานลงในวันเดียวกัน ส่งสัญญาณถึงแรงกดดันที่แพร่กระจายไปยังสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ความล่าช้าในการประกาศตัวเลขตลาดแรงงาน ทำให้ความไม่มั่นใจเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจยิ่งเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเก็งกำไรในหุ้นด้าน AI ที่ดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมาก จนเกิดกระแส *ความกังวลเรื่องฟองสบู่* ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของตลาดคริปโตโดยรวม
ตลาดกำลังจับตาการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)ในวันพุธนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าโอกาสที่บิตคอยน์จะกลับขึ้นไปแตะ 100,000 ดอลลาร์ในระยะสั้น ขึ้นอยู่กับภาวะ ‘การปรับมุมมองความเสี่ยง’ ของนักลงทุนเป็นหลัก
ในขณะเดียวกัน นักเทรดมืออาชีพบางส่วนเริ่มเตรียมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น โดยยอมจ่ายต้นทุนสูงเพื่อวางกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงผ่านตลาดอนุพันธ์ เช่น การถือครอง ‘พุทออปชัน’ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้สิทธิ์ในการขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด สะท้อนความวิตกต่อโอกาสที่ราคาอาจปรับตัวลงต่อ
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวในจีนก็สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนเช่นกัน เมื่อนักลงทุนบางส่วนเริ่มขาย *สเตเบิลคอยน์* ต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งโดยทั่วไป สเตเบิลคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์หลบความเสี่ยงที่ควรมีมูลค่าคงที่เทียบกับเงินตราในโลกจริง ซึ่งการซื้อขายในระดับต่ำกว่าราคามาตรฐาน แสดงถึงกระแส *การหลีกเลี่ยงคริปโต* ที่เริ่มปรากฏชัดเจนในประเทศนั้น
*ความคิดเห็น* ความผันผวนในตลาดโลกโดยเฉพาะในสหรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาคริปโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สัญญาณในตลาดอนุพันธ์ก็สะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากภาวะเก็งกำไรสู่การป้องกันความเสี่ยง นักลงทุนควรจับตาสัญญาณนโยบายการเงินจากธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน
ความคิดเห็น 0