บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลจากสหรัฐฯ ‘คาเนอรี แคปิตอล กรุ๊ป’ (Canary Capital Group) ได้ยื่นคำขอเปิดตัว ‘คาเนอรี อเมริกันเมด คริปโต ETF’ (Canary American-Made Crypto ETF) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) โดยกองทุนนี้จะใช้ตัวย่อว่า ‘MRCA’ และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดซื้อขาย Chicago Board Options Exchange (Cboe) BZX
กองทุน ETF ดังกล่าวจะติดตามดัชนี ‘เมด อิน อเมริกา บล็อกเชน อินเด็กซ์’ ซึ่งรวบรวมเฉพาะสกุลเงินดิจิทัลที่ ‘พัฒนา, ดำเนินการ หรือขุด’ ในสหรัฐฯ เป็นหลัก เงื่อนไขเพิ่มเติมรวมถึงการเป็นเหรียญที่ *ฝากไว้กับผู้ดูแลสินทรัพย์ที่ได้รับการกำกับดูแลในสหรัฐฯ ได้*, *มีสภาพคล่องในระดับขั้นต่ำที่กำหนด*, และ *สามารถซื้อขายได้บนหลายกระดานซื้อขายหลัก* โดย *จะมีการปรับน้ำหนักพอร์ตสินทรัพย์ทุกไตรมาส* ทั้งนี้ กองทุนจะไม่รวบรวมเหรียญกลุ่ม *สเตเบิลคอยน์, เหรียญมีม, และโทเคนที่อิงมูลค่า* อยู่ในพอร์ตอย่างเด็ดขาด
ความโดดเด่นของ ETF นี้อยู่ที่การนำ *รางวัลจากการสเตกกิ้ง* มาคำนวณรวมในมูลค่าสินทรัพย์ของกองทุน โดยรับผลตอบแทนจาก *เหรียญที่พัฒนาโดยใช้ระบบยืนยันผ่านการถือครอง (Proof-of-Stake)* ผ่านผู้ให้บริการภายนอก และรวมเข้ากับมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของ ETF นอกจากนี้ กองทุนจะดำเนินการในรูปแบบ *ครอบครองสินทรัพย์จริง* ไม่มีการใช้เลเวอเรจหรืออนุพันธ์ และส่วนใหญ่ของคริปโตจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยใน *กระเป๋าเงินเย็น* (Cold Wallet) พร้อมมีการดูแลทรัพย์สินโดย *บริษัทดูแลทรัพย์สินที่จดทะเบียนในรัฐเซาท์ดาโคตา*
จากดัชนี ‘มูลค่าตลาดคริปโตสัญชาติอเมริกันสูงสุด’ ของ CoinMarketCap เหรียญที่มีแนวโน้มถูกรวมอยู่ใน ETF นี้ ได้แก่ ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL), ด็อจคอยน์(DOGE), คาร์ดาโน(ADA), เชนลิงค์(LINK), และสเตลลาร์(XLM)
การยื่นแบบล่าสุดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนรุกตลาด ETF ของคาเนอรีที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ยื่นขอเปิดตัว ETF ที่อ้างอิงเหรียญแนวมีมของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* รวมถึงผลิตภัณฑ์ ETF ที่เกี่ยวกับ โซลานา(SOL), ริปเปิล(XRP), ซุย(SUI), และทรอน(TRX) แม้ปัจจุบันทั้งหมดจะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาโดย SEC แต่ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางของบริษัทอย่างชัดเจน
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของคาเนอรียังสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงในสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พอล แอตกินส์ (Paul Atkins) อดีตกรรมาธิการ SEC ได้เปิดตัวโครงการ ‘โปรเจกต์คริปโต’ (Project Crypto) เพื่อผลักดันให้เกิด *แนวทางควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจน* และในวันที่ 5 สิงหาคม SEC ได้ออกแนวทางระบุว่า *โครงสร้างบางประเภทของลิควิดสเตกกิ้ง ไม่ถือว่าเป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมาย* ซึ่งถือเป็น ‘สัญญาณบวก’ สำหรับ ETF ที่ใช้โมเดลสเตกกิ้งในการบริหารจัดการ
*ความคิดเห็น:* เมื่อภาพรวมกฎระเบียบเริ่มเอื้ออำนวยมากขึ้น สำหรับภาคคริปโตในสหรัฐฯ ผู้เล่นรายใหม่อย่างคาเนอรีจึงไม่พลาดโอกาสในการเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อแย่งชิงตำแหน่งในตลาด ETF ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในฝั่งดิจิทัล
ความคิดเห็น 0