ริปเปิล(XRP) กำลังเคลื่อนไหวตามแรงดีดกลับของตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยราคามีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถ *ทะลุแนวต้านหลัก* ได้ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่ายังคงต้องใช้เวลา *ก่อนจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างเต็มตัว* ขณะเดียวกัน บางฝ่ายเตือนว่าโครงสร้างราคาขณะนี้กำลังแสดงสัญญาณของ *รูปแบบขาลงทางเทคนิค* ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานตามมา
เมื่อวันที่ 24 นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ CasiTrades ระบุว่า แม้ XRP จะดีดตัวขึ้นจากเส้นแนวโน้มระยะสั้น แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ *3 ดอลลาร์ (ราว 4,170 บาท)* ได้ ซึ่งระดับนี้ถือเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของแนวโน้มขาขึ้น* หากยังไม่สามารถปิดเหนือระดับดังกล่าวได้ ความเสี่ยงต่อการทดสอบแนวรับระดับล่างก็ยังคงอยู่ โดยแนวรับหลักอยู่ที่ *2.79 ดอลลาร์ (3,878 บาท)* และ *2.58 ดอลลาร์ (3,589 บาท)* หากราคาหลุดจากช่วงราคานี้ มีโอกาสสูงที่จะเกิดการร่วงลงเพิ่มเติม
ในแง่เทคนิค จุดที่น่าสนใจคือ การดีดตัวรอบล่าสุดดูเหมือนเป็น *โครงสร้างคลื่นปรับฐานแบบ A-B-C* มากกว่าจะเป็นคลื่นขาขึ้น ซึ่งในคลื่น C ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่ RSI บนกราฟ 4 ชั่วโมงแสดง *ภาวะไดเวอร์เจนซ์ขาลง* ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันระยะสั้น และเมื่อมองกราฟ 1 ชั่วโมง RSI ก็เข้าใกล้เส้นแนวรับล่าง บ่งชี้ถึงการสู้กันของแรงซื้อขายที่จุดเปลี่ยนสำคัญ
หาก XRP ลดลงต่ำกว่า *2.69 ดอลลาร์ (3,739 บาท)* อาจต้องมีการปรับมุมมองต่อแนวโน้มปัจจุบันอย่างจริงจัง และหากระดับ *2.58 ดอลลาร์* ไม่สามารถรักษาได้ ความเป็นไปได้ของ *แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว* ก็อาจถูกทำลาย อย่างไรก็ตาม หากสามารถรักษาระดับราคาปัจจุบันไว้ได้ XRP ยังมี *โอกาสฟื้นตัวและกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น*
เป้าหมายสำคัญที่ต้องจับตาหากต้องการเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่มั่นคงคือ XRP จะต้องสามารถทะลุผ่านแนวต้านต่อเนื่องที่ *2.79 ดอลลาร์*, *3.00 ดอลลาร์ (4,170 บาท)* และ *3.25 ดอลลาร์ (4,518 บาท)* ได้ ด้วยความต่อเนื่อง มิฉะนั้น ความพยายามในการขึ้นอาจจบลงด้วยการปรับฐานอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มุมมองจากบางนักวิเคราะห์ยังคงมี *ท่าทีเชิงบวกในระยะยาว* โดย MilkybullCrypto เชื่อว่า XRP มีแนวโน้มจะสร้าง *จุดปิดไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์* และอาจเป็นสัญญาณของวัฏจักรที่คล้ายช่วงปี 2017 ซึ่งขณะนั้น XRP ดีดตัวจาก 0.02 ดอลลาร์ ไปแตะระดับ *3.31 ดอลลาร์ (4,602 บาท)* ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี
MilkybullCrypto กล่าวเพิ่มเติมว่าหาก XRP สามารถปิดไตรมาสเหนือแนวต้านระหว่าง *2.20-2.30 ดอลลาร์ (3,058-3,197 บาท)* ได้ ก็อาจนำไปสู่ *รอบขาขึ้นที่กว้างขวางและแข็งแรงอีกครั้ง* พร้อมให้ความเห็นว่า XRP ได้ผ่านพ้นช่วง *การสะสมแบบยาวนาน* และกำลังเข้าสู่ *ช่วงเปลี่ยนแนวโน้มขาขึ้นแบบจริงจัง*
ในที่สุด ทิศทางของ XRP จะถูกกำหนดโดยปัจจัยผสมระหว่าง *สัญญาณเทคนิคในระยะสั้น* กับ *แนวโน้มใหญ่ในระยะยาว* โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเคลื่อนไหวของ *บิตคอยน์(BTC)* ซึ่งจะเป็น *ตัวแปรสำคัญ* ในการขับเคลื่อนโมเมนตัมขาขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0