คลอริส เฉิน ซีอีโอของซิงกูลาริตี้ ไฟแนนซ์(Singularity Finance) ได้เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมเพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านคริปโตในสหรัฐฯ และนวัตกรรมทางการเงินที่ใช้ AI
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เช่น ซินเทีย ลูมิส, ทิม สก็อตต์, เบอร์นี โมเรโน, บิล แฮกการ์ตี และมาร์ชา แบล็กเบิร์น รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม เพื่อหารือเกี่ยวกับความชัดเจนของกฎระเบียบคริปโตและประเด็นด้านภาษีสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีแบล็กเบิร์นและแอนดรูว์ กอร์ดอน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบคริปโต เป็นเจ้าภาพจัดงาน
กอร์ดอนกล่าวในสุนทรพจน์เปิดงานว่า "รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเข้มงวดเป็นเวลานาน" และเน้นถึงปัญหาเกี่ยวกับ ‘นโยบายที่ไม่ชัดเจนและจำกัด’ ซึ่งส่งผลให้ ‘นวัตกรรมไหลออกไปต่างประเทศ’ นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า "อุตสาหกรรมคริปโตไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยวอลล์สตรีท แต่เป็นนักพัฒนาและผู้ประกอบการ" พร้อมเรียกร้องให้มีการปรับปรุงนโยบาย
ระหว่างการประชุม ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยวุฒิสมาชิกสก็อตต์คาดการณ์ว่า ‘กฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์’ คาดว่าจะผ่านภายใน 100 วัน ขณะที่ลูมิส ผู้สนับสนุนบิตคอยน์(BTC) เปิดเผยว่ากำลังผลักดันให้ ‘รางวัลจากการขุดและการสเตก’ ไม่ถูกเก็บภาษีจนกว่าจะมีการขายจริง พร้อมทั้งเสนอให้ ‘ยกเลิกกฎเกณฑ์ที่ไม่สมเหตุสมผลสำหรับโบรกเกอร์’ และให้มี ‘การยกเว้นภาษีสำหรับธุรกรรมคริปโตขนาดเล็กที่ต่ำกว่า 600 ดอลลาร์’
เฉิน ซีอีโอของซิงกูลาริตี้ ไฟแนนซ์ แสดงความคิดเห็นว่ากฎระเบียบคริปโตของสหรัฐฯ ‘กำลังขัดขวางการเติบโตของสินทรัพย์จริงที่ถูกโทเคนไนซ์ (RWA)’ เธออธิบายว่า “เรายังไม่สามารถให้บริการสินทรัพย์ AI ที่ถูกโทเคนไนซ์และผลิตภัณฑ์พันธบัตรรัฐบาลในสหรัฐฯ ได้ เพราะมีความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะถูกจัดประเภทเป็น ‘หลักทรัพย์’" ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะต้องจดทะเบียนกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ‘ยุ่งยากและมีต้นทุนสูง’ ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากนี้ เฉินยังเน้นว่า "หากไม่มีการกำหนดความชัดเจนเรื่องหลักทรัพย์และการปรับปรุงกระบวนการขึ้นทะเบียนให้เรียบง่ายขึ้น สหรัฐฯ อาจเสียเปรียบในการแข่งขันด้านนวัตกรรมทางการเงินระดับโลก" เธอเรียกร้องให้ภาครัฐและอุตสาหกรรม ‘ร่วมมือกันเพื่อลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ’ และ ‘ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนและ AI ในภาคการเงินของสหรัฐฯ’
ความคิดเห็น 0