ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
โทเคนมีมอย่าง *พัมป์ฟัน(PUMP)* ที่เพิ่งระดมทุนได้มหาศาลกำลังเผชิญแรงเทขายหนักหลังจากเข้าตลาดได้ไม่นาน โดยระดมทุนได้กว่า 4.485 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 6.23 พันล้านบาท) แต่กลับร่วงต่ำกว่าราคาขายรอบแรกภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ สะท้อนให้เห็นถึง *กระแสเก็งกำไรที่ร้อนแรงจนเกินไป*
จากข้อมูลล่าสุด ราคาพัมป์(PUMP) ปรับตัวลดลงกว่า 21% ภายใน 24 ชั่วโมง อยู่ที่ระดับ 0.00406 ดอลลาร์ (ราว 5.6 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ผู้ร่วมลงทุนรอบแรกเกือบ 1 หมื่นคนซื้อไว้ โดย 60% ของผู้ถือโทเคนจากรอบนี้ได้เทขายหรือนำโทเคนออกนอกกระดานแล้ว ขณะที่เหลือผู้ถือครองอยู่เพียง 37% เท่านั้น
แม้ในช่วงแรกโปรเจกต์จะสร้างความหวังด้วยการประกาศจะทำการซื้อคืนมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 417 ล้านบาท) แต่จากนั้นการซื้อคืนเพิ่มเติมมีมูลค่าเพียง 2.3 ล้านดอลลาร์ (32 ล้านบาท) ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดถดถอยลงอย่างรวดเร็ว แม้พัมป์จะถูกนำเข้าจดทะเบียนในกระดานซื้อขายใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น OKX, บิทเม็กซ์(BitMEX), คราเคน(Kraken) และคูคอยน์(KuCoin) แต่ก็ไม่อาจพยุงราคาขึ้นมาได้
สาเหตุสำคัญอีกประการที่ทำให้นักลงทุนเริ่มหันหลังให้พัมป์ ก็คือโปรเจกต์ขาด *ยูทิลิตี้จริงๆ, ระบบรางวัล หรือแม้แต่การแจกเหรียญ(Airdrop)* โดยโปรเจกต์นี้อาศัยเพียงเรื่องราวในการขับเคลื่อน แถมยังมีการไหลออกของสภาพคล่องไปยังโครงการคู่แข่งอย่าง *เลทส์บองค์ฟัน(LetsBONK.fun)* จนนำไปสู่รายได้ออนเชนและอัตราการออกโทเคนใหม่ที่ลดลงต่อเนื่อง
‘โหมดเย็น’ ได้กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง แพลตฟอร์มวิเคราะห์อนุพันธ์ *โคอินอะไลซ์(Coinalyze)* รายงานว่า จำนวนสัญญาเปิดของ PUMP ในตลาดฟิวเจอร์สลดลงเหลือ 629 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.74 พันล้านบาท) ลดลงถึง 16% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน แสดงให้เห็นว่า *ความต้องการเพื่อการเก็งกำไรกำลังหดตัวลงอย่างรวดเร็ว*
นักเทรดชื่อดัง *คริปโตบูลลี่(Crypto Bully)* มองว่า โอกาสในการปรับตัวลดลงยังมีอยู่ และหากไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน การฟื้นตัวย่อมเป็นเรื่องยาก แม้บางกราฟเผยสัญญาณการถูกขายมากเกินไป แต่ *ความคิดเห็น* ส่วนใหญ่จากผู้เชี่ยวชาญยังแสดงความระมัดระวัง ขณะที่ *คริปโตA4* หนึ่งในสายเทคนิคได้ออกมาให้ความเห็นว่า ราคาน่าจะเข้าสู่จุดต่ำในไม่ช้าและเป็นโอกาสเข้าซื้อ แต่ *ความเชื่อมั่นของตลาดยังไม่สามารถเรียกคืนได้ง่ายนัก*
นักวิเคราะห์อีกคนอย่าง *เจมฮันเตอร์(Gem Hunter)* วิจารณ์ด้วยความรุนแรง โดยกล่าวว่า ผู้ก่อตั้งพัมป์เคยโจมตีโครงการพรีเซลว่าเป็น ‘กลโกง’ มาโดยตลอด แต่สุดท้ายกลับระดมทุนได้ถึง 5 ร้อยล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 พันล้านบาท) โดยไม่มีการจัดสรรรางวัลให้ผู้ถือโทเคนเลย พร้อมยกตัวอย่างแนวโน้มราคาที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้เลยว่า "ตลาดยังไม่เจอจุดต่ำสุด"
กรณีของพัมป์ไม่ใช่แค่การปรับฐานราคา แต่สะท้อนถึง *ความเสี่ยงของมีมโทเคนที่ทำราคาพุ่ง-ร่วงภายในระยะเวลาอันสั้นหลังการเปิดขายสาธารณะ* นักลงทุนจึงควรใช้วิจารณญาณและไม่หลงตามกระแสสั้นๆ อย่างง่ายดาย
ความคิดเห็น 0