ข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณทองคำสำรองของสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่การแปลงสินทรัพย์จริง (RWA) เป็นโทเค็นอาจเป็นทางเลือก
ปริมาณทองคำสำรองใน ‘ฟอร์ท นอกซ์’ (Fort Knox) ของสหรัฐฯ ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเป็นทางการมานานกว่า 50 ปี ทำให้ประเด็นนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ท่ามกลางข้อกังวลเกี่ยวกับ ‘ความโปร่งใสของสินทรัพย์’ มีเสียงเรียกร้องให้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเปลี่ยนทองคำให้เป็นโทเค็นเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการตรวจสอบ
มิเชล คริเบลี ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘เน็กซ์บริดจ์’ (NexBridge) บริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า “พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มักเป็นเป้าหมายหลักของ ‘RWA โทเค็น’ อยู่แล้ว แต่ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ก็กำลังกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม” เขายังเสริมว่า “การใช้บล็อกเชนจะช่วยให้สามารถตรวจสอบปริมาณทองคำที่ถือครองได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะทำให้ตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้น”
ความเป็นไปได้ของการใช้บล็อกเชนได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม เมื่อ ‘รัฐบาลแห่งประสิทธิภาพ’ (DOGE) ซึ่งเป็นแนวคิดที่นำโดยอีลอน มัสก์(Elon Musk) ได้เริ่มหารือแนวทางเพิ่มความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณรัฐบาล หลังจากที่เกิดคำถามเกี่ยวกับปริมาณทองคำสำรองของฟอร์ท นอกซ์ มัสก์ได้กล่าวว่า “การตรวจสอบทุกปีควรเป็นเรื่องปกติใช่ไหม?” ขณะที่แรนด์ พอล (Rand Paul) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการผ่าน ‘DOGE’
ตลาดมองว่ามีโอกาสสูงที่การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองจะเกิดขึ้นจริง ข้อมูลจาก ‘โพลีมาร์เก็ต’ (Polymarket) แพลตฟอร์มตลาดทำนายระบุว่า ความเป็นไปได้ที่ฟอร์ท นอกซ์จะได้รับการตรวจสอบภายในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ประมาณ 50%
แนวคิดในการบันทึกปริมาณทองคำและสินทรัพย์ประเภทเดียวกันบนบล็อกเชนเพื่อรักษาความโปร่งใส สอดคล้องกับแนวโน้มที่เติบโตขึ้นของการเปลี่ยน ‘สินทรัพย์จริง’ เป็น ‘RWA โทเค็น’ คริเบลี กล่าวว่า “ทองคำมักถูกใช้เป็นแหล่งเก็บมูลค่าโดยอิสระในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม” และเชื่อว่า “การใช้บล็อกเชนจะช่วยพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทองคำได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความไว้วางใจมากขึ้น”
ในขณะที่ข้อกังวลเกี่ยวกับทองคำสำรองของฟอร์ท นอกซ์ ยังคงดำเนินต่อไป ตลาดกำลังจับตามองว่าประเด็นนี้จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านบล็อกเชนหรือไม่
ความคิดเห็น 0