ศึก SEC กับริปเปิล(XRP) อาจถึงจุดจบ ศาลนัดตัดสินสำคัญ 15 ส.ค. นี้

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่างริปเปิล(XRP) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ที่ยืดเยื้อมานาน อาจเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย หลังศาลกำหนดให้ SEC ต้องแสดงจุดยืนภายในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่อาจกลายเป็น *หมุดหมายสำคัญ* ของทั้งกรณีความขัดแย้ง และแนวโน้มการกำกับดูแลวงการคริปโตในสหรัฐฯ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกรายงานโดย บิล มอร์แกน(Bill Morgan) ทนายความผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโต ผ่านโพสต์ใน X (หรือชื่อเดิมคือ Twitter) โดยเขาให้ข้อมูลว่า แม้ SEC จะไม่มีเส้นตายทางกฎหมายที่ชัดเจนในการถอนคำอุทธรณ์ แต่วันที่ 15 สิงหาคมซึ่งเป็นวันที่ต้องรายงานต่อศาล อาจทำหน้าที่เป็น ‘เส้นตายโดยพฤตินัย’ ที่กำหนดการตัดสินใจของ SEC ว่าจะเดินหน้าหรือถอยจากการอุทธรณ์ต่อไป

การฟ้องร้องครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เมื่อ SEC อ้างว่าริปเปิลขาย XRP เป็น ‘หลักทรัพย์ที่ไม่ได้รับการจดทะเบียน’ ศาลชั้นต้นได้ตัดสินในปีที่ผ่านมา ว่าการขาย XRP แก่นักลงทุนทั่วไปไม่ได้เข้าข่ายการขายหลักทรัพย์ ซึ่งนับเป็นชัยชนะของริปเปิลอย่างมีนัยสำคัญ กระนั้น SEC ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินบางส่วน และขณะนี้ ความสนใจของทั้งนักลงทุนและสื่ออยู่ที่ว่าจะมีการถอนอุทธรณ์หรือไม่

สิ่งที่อาจเสริมความเป็นไปได้ในการถอนอุทธรณ์ของ SEC คือเหตุการณ์ล่าสุดที่หน่วยงานได้ถอนฟ้องคดีอื่นกับบริษัทคริปโตอย่างคอยน์เบส โดยไม่เรียกเก็บค่าปรับ แม้ยังไม่มีท่าทีชัดเจนจาก SEC แต่หลายฝ่ายมองว่านี่อาจเป็น ‘สัญญาณ’ ว่า หน่วยงานกำกับดูแลกำลังปรับเปลี่ยนแนวทางต่ออุตสาหกรรมคริปโตในวงกว้าง

ในด้านตลาด ราคาของริปเปิล(XRP) ได้แสดงความแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยภายในเวลา 1 เดือน ราคาพุ่งขึ้นถึง 43.88% และปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ที่ราว 3.13 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,351 บาท) ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap อย่างไรก็ตาม ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด XRP ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 1.42%

หาก SEC ตัดสินใจถอนคำอุทธรณ์ นี่อาจกลายเป็น *ชัยชนะครั้งใหญ่* ไม่เพียงแค่ของริปเปิลเท่านั้น แต่รวมถึงชุมชนคริปโตทั้งหมด โดยสามารถลดความไม่แน่นอนทางกฎหมายในสหรัฐฯ และส่งผลต่อท่าทีของ SEC ต่อโครงการบล็อกเชนอื่นๆ ในอนาคต

วันที่ 15 สิงหาคม จึงอาจไม่ใช่แค่เส้นตายตามกระบวนการศาลเท่านั้น แต่เป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ของสงครามระหว่างภาครัฐและอุตสาหกรรมคริปโตในอเมริกา นักลงทุนควรเตรียมรับมือกับความผันผวนและความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างที่อาจตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า