ราคาอีเธอเรียม(ETH) ยังคงอ่อนตัวต่ำกว่า 2,800 ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสความกังวลของนักวิเคราะห์บางรายที่เตือนว่าหากแนวรับสำคัญพังทลาย อาจเห็นราคาดิ่งลงไปถึง 1,200 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 5 ตามรายงานของ CryptoPotato ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ราคาอีเธอเรียมร่วงลงมากกว่า 24% และไม่สามารถตามกระแสตลาดขาขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ นักเทรดชื่อดังและผู้ใช้ X นามว่า เนบราสกากูนเนอร์(Nebraskangooner) ชี้ว่ารูปแบบ 'ถ้วยและด้ามจับ' บนกราฟ ETH ถูกทำลายไปแล้ว และหากแนวรับที่ 2,400 ดอลลาร์พังลง ราคามีโอกาสร่วงลงไปถึง 1,200 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เขาระบุเพิ่มเติมว่า "ยังไม่มีสัญญาณการทะลุแนวรับที่ชัดเจน ขณะนี้ ETH อยู่ในช่วงแกว่งตัวในกรอบกว้าง"
ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์บางรายยังคงมองบวกต่อแนวโน้มระยะยาวของอีเธอเรียม ผู้ใช้ X นามว่า แมนโด CT(MANDO CT) ประเมินว่า "คลื่นขาขึ้นครั้งใหญ่ของอีเธอเรียมกำลังจะเริ่มต้น" พร้อมตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ 10,000 ดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์ชื่อดัง ไมเคิล ฟาน เดอ ป็อปเป(Michael van de Poppe) มองว่าหากประธานาธิบดีทรัมป์เดินหน้าลงทุนใน ETH อย่างจริงจัง ตลาดอาจตอบสนองตามไปด้วย
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือโครงการดีไฟที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีทรัมป์และครอบครัวอย่าง เวิลด์ ลิเบอร์ตี ไฟแนนเชียล(WLF) มีรายงานว่าได้ซื้ออีเธอเรียมและสินทรัพย์ดิจิทัลสำคัญในปริมาณมาก นอกจากนี้ เอริก ทรัมป์(Eric Trump) ลูกชายของทรัมป์ ยังกล่าวว่า "ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อเพิ่ม" ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ข้อมูลออนเชนจาก CryptoQuant ระบุว่า ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ปริมาณ ETH ที่ไหลออกจากกระดานเทรดสูงกว่าปริมาณที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่นักลงทุนต้องการเก็บสินทรัพย์ไว้นอกตลาดกลาง อาจช่วยลดแรงกดดันในการขายระยะสั้น
แม้จะมีมุมมองที่แตกต่าง ทั้งการคาดการณ์ว่า ETH อาจร่วงลงไปแตะ 1,200 ดอลลาร์ หรือพุ่งขึ้นไปถึง 10,000 ดอลลาร์ ท้ายที่สุด ทิศทางของตลาดจะขึ้นอยู่กับระดับแนวรับที่สำคัญและปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่กำลังส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
ความคิดเห็น 0