ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคริปโตเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่จากการถูกแฮ็กและหลอกลวง มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยรวมสูงถึง *ประมาณ 22,670 ล้านบาท (163 ล้านดอลลาร์)* จากเหตุการณ์โจมตีทั้งหมด 16 ครั้ง โดยกรณีที่สร้างความเสียหายมากที่สุดเป็น *การโจมตีแบบวิศวกรรมสังคม* ที่มุ่งเป้าไปยังนักลงทุนรายหนึ่งในบิตคอยน์(BTC)
บริษัทด้านความปลอดภัยบล็อกเชนอย่าง PeckShield เปิดเผยข้อมูลนี้ผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 2 ว่ามูลค่าความเสียหายในเดือนสิงหาคมนั้น เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่อยู่ที่ *ประมาณ 19,740 ล้านบาท (142 ล้านดอลลาร์)* ราว 15% อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ยอดความเสียหายลดลงถึง 47%
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบุว่า การเพิ่มขึ้นของความเสียหายดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่หันไปมุ่งเป้าโจมตี *บัญชีครอบครองสินทรัพย์มูลค่าสูง* ประกอบกับราคาคริปโตที่เริ่มฟื้นตัวในช่วงหลัง ทำให้ทรัพย์สินดิจิทัลกลายเป็นเป้าหมายที่ล่อตาล่อใจมากขึ้น ความเคลื่อนไหวของอาชญากรไซเบอร์จึงยิ่งซับซ้อนและมีความแม่นยำมากขึ้น
PeckShield ชี้ว่า *รูปแบบการหลอกลวงที่เจาะจงบุคคลและใช้กลยุทธ์ซับซ้อน* เช่น ฟิชชิ่งและการหลอกให้เหยื่อยินยอมด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ ซึ่งต่างจากแนวโน้มในอดีตที่เน้นเจาะระบบอัตโนมัติหรือข้อบกพร่องของสมาร์ทคอนแทรกต์
เหตุการณ์นี้ช่วยตอกย้ำให้ชุมชนนักลงทุนตระหนักว่า การป้องกันภัยในโลกคริปโตไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องระบบและเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังต้องรวมถึง *การรับรู้ด้านความปลอดภัยและความระมัดระวังของผู้ใช้เอง* ด้วย “ความคิดเห็น” จากผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องกันว่า พฤติกรรมของผู้ใช้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงจากกลโกงที่มีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดเห็น 0