รายงานตรวจสอบยืนยัน คาร์ดาโน(Cardano) ไม่มีการทุจริตในการแลกรับเอิดา(ADA) 600 ล้านดอลลาร์

อินพุตเอาต์พุตโกลบอล(IOG) บริษัทผู้พัฒนาเครือข่ายคาร์ดาโน(Cardano) ได้ยุติข้อถกเถียงเกี่ยวกับโปรเจกต์และเหรียญเอ이다(ADA) ด้วยรายงานการตรวจสอบภายนอกครั้งใหญ่ที่เผยแพร่ล่าสุด โดยการตรวจสอบที่นำโดยบริษัทบัญชี BDO และสำนักงานกฎหมายแมคเดอร์มอตต์ วิล แอนด์ เอมอรี ได้คลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็น FUD (ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย) ที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างการแลกรับโทเคนในช่วงแรกของคาร์ดาโน

เบื้องหลังของการตรวจสอบนี้เกิดขึ้นจากข้อกล่าวหาในเดือนพฤษภาคม ปี 2025 ของศิลปิน NFT ชื่อ มาซาโตะ อเล็กซานเดอร์ ที่อ้างว่า ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ใช้ ‘คีย์เจเนซิส’ เพื่อดึงเหรียญเอิดา(ADA) กลับมาเป็นของตนเองถึง 318 ล้านเหรียญ มูลค่าราว 600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,340 ล้านบาท) ข้อกล่าวหานี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์ในชุมชนคริปโตออนไลน์ทันที

โทเคนเหล่านี้มีที่มาจากการจำหน่ายล่วงหน้าในประเทศญี่ปุ่นช่วงกลางปี 2010 โดยถูกแจกจ่ายในรูปแบบบัตรกำนัลดิจิทัลให้กับนักลงทุนรายแรก อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า บัตรกำนัลบางส่วนไม่สามารถแลกรับเหรียญได้อย่างถูกต้องในภายหลัง ทั้งยังมีข้อกล่าวหาว่าทีมพัฒนานำเหรียญส่วนนี้กลับมาใช้เองโดยมิชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีการขายให้กับผู้สูงอายุก็กลายเป็นประเด็นร้อนเพิ่มเติม

แต่ผลการตรวจสอบกลับขัดแย้งกับข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง โจเอล เทลฟ์เนอร์ หัวหน้าที่ปรึกษากฎหมายของ IOG เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเชิงนิติวิทยาศาสตร์ ไม่พบหลักฐานของการทุจริตหรือการปกปิดเจตนาใดๆ ในกระบวนการแลกรับ พบว่าจากบัตรกำนัลทั้งหมด 14,282 รายการ มีการแลกรับสำเร็จถึง 99.2% โดยเอิดาทั้งหมด 25.85 พันล้านเหรียญได้ถูกแจกจ่ายไปแล้ว ส่วนอีก 0.8% ที่แลกรับไม่สำเร็จได้ถูกโอนเข้าสู่คลังการเงินของคาร์ดาโน ไม่ได้ใช้หรือเบิกจ่ายผิดวัตถุประสงค์ นอกจากนี้ สถิติบ่งชี้ว่า ผู้ซื้อเพียง 6.1% เท่านั้นที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จึงไม่สนับสนุนข้อกล่าวหาเรื่องการเน้นขายให้ผู้สูงอายุ

ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ได้โพสต์ทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวว่า “ถึงเวลาได้รับคำขอโทษแล้ว” พร้อมเผยความเสียใจกับข้อกล่าวหาและข่าวลือที่สร้างชื่อเสียในช่วงที่ผ่านมา เขาย้ำจุดยืนที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความโปร่งใสในทุกขั้นตอน’ มาตั้งแต่ต้น และเชื่อว่าผลการตรวจสอบในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน การตรวจสอบนี้ถือว่ามีความสำคัญมากกว่าการแก้ต่าง เพราะมันช่วยเสริมสร้าง ‘ความไว้วางใจในชุมชนคาร์ดาโน’ และกลายเป็นตัวอย่างของ ‘ความโปร่งใสและความรับผิดชอบในโปรเจกต์บล็อกเชน’ ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อราคาของเอิดา(ADA) ในระยะต่อไป