เดโมแครตเปิดร่างกฎหมายคริปโตหวังร่วมมือสองพรรค วางกรอบควบคุมชัดเจน-ปิดทางฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตของสหรัฐจำนวน 12 คน เปิดเผยร่างกรอบกฎหมายเบื้องต้นเกี่ยวกับตลาดคริปโต โดยระบุว่าจะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อจัดทำเป็น *ข้อเสนอร่วมจากทั้งสองพรรค* ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของฉันทามติทางการเมือง กรอบกฎหมายฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ต่อร่างกฎหมายควบคุมตลาดคริปโตของพรรครีพับลิกันที่กำลังอยู่ระหว่างการผลักดัน

สมาชิกวุฒิสภากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคณะกรรมาธิการธนาคาร และในร่างกฎหมายเบื้องต้นได้วางกรอบการทำงานร่วมกันระหว่าง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) กับ คณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า(CFTC) เพื่อกำหนดแนวทางควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน พร้อมเน้นว่า “เราต้องกำหนด ‘กฎเกณฑ์’ ให้ชัดเจนในตลาดที่มีชาวอเมริกันหลายล้านคนเข้าร่วม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างเสถียรภาพของตลาด” ทั้งยังเตือนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลไม่ควรถูกนำไปใช้เพื่อกิจกรรมผิดกฎหมายหรือประโยชน์ทางการเมืองส่วนตน

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้พรรคเดโมแครตยังคงเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าพรรครีพับลิกันจะนำร่างนี้เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาในสภาหรือไม่ โดยพรรครีพับลิกันมีแผนผลักดันร่างกฎหมายของตนผ่านคณะกรรมาธิการธนาคารภายในเดือนตุลาคม และคณะกรรมาธิการการเกษตรภายในเดือนพฤศจิกายน ก่อนประกาศใช้ภายในปี 2026 ด้าน ทิม สก็อตต์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่ามีแนวโน้มที่สมาชิกพรรคเดโมแครตระหว่าง 12 ถึง 18 คนจะสนับสนุนร่างของพรรคตน ซึ่งสะท้อนว่าอาจมีพื้นที่สำหรับการเจรจาได้

ข้อเสนอจากฝั่งเดโมแครตประกอบด้วย 7 เสาหลัก โดยหนึ่งในนั้นคือการ *ปิดช่องทางทางการเงินผิดกฎหมาย* และเติมเต็ม *ช่องว่างในการกำกับตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์* ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังขาดแคลนในกฎหมายปัจจุบัน

ที่น่าสนใจคือ เอกสารร่างนี้ยังพาดพิงถึงประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรง โดยระบุปัญหา *จำนวนบุคลากรและทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ* สำหรับหน่วยงานกำกับดูแลคริปโต โดยเฉพาะ SEC, CFTC และกระทรวงการคลัง พร้อมอ้างว่าทรัมป์ไม่แสดงเจตนาจะสนับสนุนกฎระเบียบเหล่านี้ อีกทั้งยังถอดถอนผู้เชี่ยวชาญสายเดโมแครตออกจากคณะกรรมการอิสระจำนวนมาก โดยไม่เสนอชื่อผู้แทนใหม่เข้ามาแทนที่

ในเวลานี้ CFTC กำลังประสบกับภาวะผู้นำที่ไม่มั่นคง หลังจากผู้บริหารระดับสูงทยอยลาออก เหลือเพียงแครอลีน พาล์ม(R. Caroline Pham) ทำหน้าที่รักษาการประธาน ทรัมป์เสนอชื่อไบรอัน ควินเทนซ์(Brian Quintenz) ให้รับตำแหน่งต่อ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการแต่งตั้งบุคคลอื่นเข้าดำรงตำแหน่งที่เหลืออีก 4 ที่นั่ง ส่งผลให้การดำเนินงานของ CFTC เผชิญกับความล่าช้าและอุปสรรคในการผลักดันนโยบายต่าง ๆ

กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตยังย้ำว่า การสร้าง *ข้อเสนอร่วมจากสองพรรคที่เข้มแข็งและยั่งยืน* จะต้องใช้เวลา และพวกเขามีความตั้งใจจริงที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพรรครีพับลิกัน ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่าพรรคเดโมแครตไม่ได้เพียงแค่ตอบโต้เชิงนโยบายเท่านั้น แต่มีเป้าหมายในการช่วงชิงบทบาทนำในการกำหนดกฎเกณฑ์ของตลาดคริปโต ซึ่งอาจมีผลต่อแนวโน้มด้านกฎหมายของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต