กระแสความคาดหวังต่อการเปิดตัวกองทุน ETF สำหรับโดจคอยน์(DOGE) ตัวแรกกำลังร้อนแรงขึ้น ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เพิ่งประกาศเลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติ ETF โดจคอยน์จากบิทไวส์(Bitwise) ซึ่งกระตุ้นความสนใจของตลาดอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเลื่อนครั้งนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการตามกฎหมาย โดยยังคงมีระยะเวลาพิจารณาตามกฎหมายได้สูงสุดถึง 240 วัน จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะนำไปสู่การปฏิเสธโดยตรง
บิทไวส์ได้ยื่นขออนุมัติ ETF สำหรับโดจคอยน์ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดทางให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงกลุ่มเหรียญมีม(meme coin) ที่มีมูลค่าตลาดสูงได้โดยตรง การจดทะเบียน ETF สำหรับโดจคอยน์ยังถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยสร้าง *แนวทางการลงทุนเชิงสถาบัน* สำหรับสินทรัพย์มีม
แม้กระบวนการอนุมัติของบิทไวส์จะล่าช้า แต่อีกด้านหนึ่ง ‘DOJE ETF’ ซึ่งเป็น ETF โดจคอยน์ตัวแรกของโลก ก็มีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 11 กันยายน โดยได้รับการพัฒนาโดยบริษัทเร็กซ์-ออสเพรย์(Rex-Osprey) และออกแบบมาเพื่อนักลงทุนในสหรัฐ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการอนุมัติ ETF ตามปกติ ทางโครงการเลือกใช้โครงสร้างที่จัดตั้งบริษัทลูกในหมู่เกาะเคย์แมน เพื่อให้ได้การเปิดรับการลงทุนในรูปแบบ *การเข้าถึงแบบทางอ้อม* ซึ่งเป็นโครงสร้างที่คล้ายกับ ETF สำหรับอีเธอเรียม(ETH) หรือโซลานา(SOL) ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้
แม้รูปแบบจะไม่ใช่ ETF แบบดั้งเดิม แต่ *สัญญาณเชิงบวกต่อการเข้าสู่ระบบนิเวศการลงทุนกระแสหลักของโดจคอยน์* กำลังเป็นที่จับตามอง โดยในอดีต เหรียญมีมอย่างโดจคอยน์มักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร แต่การเปิดตัว ETF ในครั้งนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความต้องการจากนักลงทุนสถาบันมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน มูลค่าตลาดของโดจคอยน์อยู่ที่ประมาณ 4,250 ล้านดอลลาร์ หรือราว 59,075 พันล้านวอน และราคาของโดจคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ท่ามกลางความหวังต่อ ETF ซึ่งถือว่า *เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน* ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงศักยภาพในการฟื้นตัวของโดจคอยน์ในฐานะผู้นำเหรียญมีม
การเปิดตัว ETF ดังกล่าวอาจชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของ *พาราไดม์การลงทุนในคริปโตที่เคยเน้นแต่บิตคอยน์(BTC)* ไปสู่ความหลากหลายที่รวมถึงเหรียญมีมด้วย หาก ETF ตัวใหม่นี้ประสบความสำเร็จ การเปิดเส้นทางสู่ตลาดการเงินของคริปโตโทเคนอื่นๆ อาจเกิดขึ้นตามมา ซึ่งจะเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญต่อความสามารถในการเข้าถึงและความหลากหลายของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต*
ความคิดเห็น 0