ริปเปิล(Ripple) กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในตลาดคริปโต หลังจากเดินหน้าขยายการดำเนินงานในยุโรปและแอฟริกาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการสเตเบิลคอยน์ RLUSD และโทเคนหลักอย่าง ริปเปิล(XRP) ที่เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากนักลงทุน เนื่องจากศักยภาพในการขยายตัวในระยะยาว
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ริปเปิลประกาศจับมือกับ BBVA ธนาคารยักษ์ใหญ่จากสเปน เพื่อให้บริการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกัน โดยก่อนหน้านี้ BBVA ได้เริ่มให้บริการซื้อขายและดูแลเก็บรักษาบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) สำหรับลูกค้ารายบุคคล ซึ่งความร่วมมือกับริปเปิลจึงถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จนับจากเดิม นอกจากนี้ ริปเปิลยังเคยมีความร่วมมือด้านเทคโนโลยีกับ Garanti BBVA แห่งตุรกี และ BBVA สวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย
ภายในงานประชุมประจำปี ‘Ripple Swell 2025’ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 พฤศจิกายน ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ริปเปิลได้เผยรายละเอียดเบื้องต้นว่าจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อ ‘สเตเบิลคอยน์, ระบบชำระเงิน, กฎระเบียบ และการประยุกต์ใช้งานในโลกแห่งความจริง’ ซึ่งบริษัทระบุว่าเป็นหัวข้อที่มีบทบาทสำคัญต่ออนาคตของการเงินโลก พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเข้าร่วมแบ่งปันมุมมอง
สเตเบิลคอยน์ RLUSD ของริปเปิลก็เร่งขยายการใช้งานอย่างรวดเร็วเช่นกัน ล่าสุดได้ร่วมมือกับฟินเทคในแอฟริกาอย่าง Chipper Cash, VALR และ Yellow Card ด้วยเป้าหมายเพื่อให้บริการลูกค้าระดับองค์กร โดย RLUSD ได้รับการยกย่องว่าเป็นโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจท้องถิ่น ด้วยจุดแข็งด้าน ‘การชำระเงินแบบทันที’ โดยเฉพาะในการชำระเงินข้ามพรมแดน
ที่น่าสนใจคือ RLUSD ยังถูกนำไปทดลองใช้งานในโครงการรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นในประเทศเคนยา ซึ่งได้ทดลองใช้งานผ่านโครงการนำร่องที่พัฒนาโดย Mercy Corps Ventures โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อตรวจจับภัยแล้ง และเชื่อมโยงกับสมาร์ตคอนแทรกต์ในการเบิกจ่ายเงินประกันการเกษตรโดยอัตโนมัติ ทั้งรูปแบบโมเดลประกันภัยจากน้ำท่วมก็มีโครงสร้างเดียวกัน โดย RLUSD เปิดตัวเมื่อปลายปี 2024 โดยล่าสุดมีมูลค่าตลาดประมาณ 730 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.01 หมื่นล้านบาท) แม้จะน้อยกว่าสเตเบิลคอยน์รายใหญ่อย่าง เทเธอร์(USDT) หรือ USDคอยน์(USDC) แต่ยังถูกมองว่ามี ‘โอกาสเติบโต’ อีกมาก
ด้านโทเคน ริปเปิล(XRP) ปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ราว 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) โดยปรับตัวขึ้น 5.5% ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์กราฟ อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ชี้ว่า หาก XRP ทะลุแนวต้านของรูปแบบสามเหลี่ยมขาลงได้ ก็มีโอกาสพุ่งขึ้นไปที่ 3.6 ดอลลาร์ (ราว 5,004 บาท) นอกจากนี้ นักวิเคราะห์อีกสองราย ได้แก่ TRACER และ XForceGlobal ก็ได้ตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 6 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,340 บาท) และ 20 ดอลลาร์ (ราว 27,800 บาท) ตามลำดับ ซึ่งถือเป็น 'ความคาดหวังในการเติบโต' ที่สูงขึ้น
เมื่อมองภาพรวม ริปเปิลยังคงเดินหน้าผสานโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมี RLUSD และ XRP เป็นสองแกนหลักของการขับเคลื่อนกลยุทธ์นี้ ตลาดจึงกำลังจับตาดูว่าการจับมือพันธมิตรและการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างต่อเนื่องของริปเปิล จะสามารถผลักดันการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในระดับสากลได้มากเพียงใดในอนาคต
ความคิดเห็น 0