โดจคอยน์(DOGE) กำลังก้าวข้ามสถานะ ‘เหรียญมีม’ มุ่งสู่การเป็นสินทรัพย์ลงทุนอย่างเต็มตัว โดยช่วงเช้าวันนี้ กองทุนอีทีเอฟโดจคอยน์ตัวแรกของสหรัฐที่มีชื่อว่า *REX-ออสเปรย์ โดจคอยน์ ETF* ($DOJE) ได้เริ่มเปิดทำการซื้อขายอย่างเป็นทางการ จุดประเด็นความคาดหวังจากนักลงทุนที่มีต่อ DOGE ให้พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
*REX-ออสเปรย์ โดจคอยน์ ETF* นับเป็น ‘อีทีเอฟที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับ’ ตัวแรกในกลุ่มคริปโตมีม ถูกออกแบบให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโดจคอยน์ได้โดยตรง ผ่านโครงสร้างอีทีเอฟสไตล์ดั้งเดิม ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า โดจคอยน์กำลังได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเป็นผู้ใหญ่ และไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราวอีกต่อไป
REX Shares บริษัทผู้ออกอีทีเอฟ ได้ประกาศผ่าน X (ทวิตเตอร์) ถึงการเปิดตัวครั้งนี้ พร้อมย้ำว่า “นี่คือ ETF แรกที่เปิดให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโดจคอยน์และริปเปิล(XRP) ได้โดยตรง” ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ‘การเข้าถึงของนักลงทุน’ อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นก้าวแรกของการเพิ่มประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลในผลิตภัณฑ์ทางการเงินกระแสหลัก
ราคาของโดจคอยน์พุ่งขึ้นถึง 12% ภายในวันเดียว โดยแตะระดับ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 389 บาท) ถือเป็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดที่ 0.25 ดอลลาร์ (ราว 348 บาท) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึง *โมเมนตัมระยะสั้นที่แข็งแกร่ง* ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดบางรายระบุว่า กราฟราคา DOGE กำลังแสดงรูปแบบ *‘Bullish Megaphone’* ซึ่งหากแนวโน้มยังคงดำเนินต่อไป อาจเห็นราคาทะยานถึงระดับ 1.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,946 บาท) ในช่วงกลางถึงระยะยาว
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดจคอยน์ได้รับความสนใจจากสาธารณชนส่วนหนึ่งจากการกล่าวถึงซ้ำ ๆ ของอีลอน มัสก์(Elon Musk) แต่ ‘การถูกจัดตั้งเป็นอีทีเอฟภายใต้กรอบกำกับดูแล’ ถือเป็นครั้งแรกสำหรับมีมคอยน์อย่าง DOGE และเป็น *จุดพลิกผันสำคัญ* ที่อาจเปลี่ยนมุมมองต่อเหรียญนี้จากเครื่องมือเก็งกำไร มาเป็นสินทรัพย์การลงทุนหลัก
ETF ดังกล่าวไม่เพียงส่งผลให้ราคาของโดจคอยน์เคลื่อนไหวร้อนแรงเท่านั้น แต่ยังช่วยสะท้อนการขยายตัวของตลาดอีทีเอฟสินทรัพย์ดิจิทัล *ไปยังเหรียญอื่นนอกเหนือจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH)* ซึ่งแสดงถึง ‘แนวโน้มการเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลัก’ ของตลาดคริปโตที่กำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจนำไปสู่การยอมรับเหรียญมีมในฐานะสินทรัพย์จริงจังมากขึ้นในอนาคต.
ความคิดเห็น 0