นักลงทุนระดับกลางที่ถือครองอีเธอเรียม(ETH) กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจครั้งสำคัญ หลังจากกำไรประเมินมูลค่าในพอร์ตแตะระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดในปี 2021 โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าปัจจัยนี้อาจส่งผลให้ *ตลาดอีเธอเรียมเข้าสู่จุดเปลี่ยน* อีกครั้ง และการเคลื่อนไหวของกลุ่มวาฬระดับกลาง อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะกำหนดแนวโน้มราคานับจากนี้
เมื่อวันที่ 17 นักวิเคราะห์จาก CryptoOnchain เปิดเผยว่า กลุ่มกระเป๋าเงินที่ถือครองอีเธอเรียมระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 ETH มีกำไรที่ยังไม่ขาย (Unrealized Profit) พุ่งแตะ ‘ระดับสูงสุดของรอบ’ ซึ่งใกล้เคียงกับจุดสูงสุดที่ตลาดเคยเผชิญในปี 2021 อย่างมาก ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าประวัติศาสตร์อาจกำลังซ้ำรอย ความผันผวนช่วงสั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงตามภาวะจิตวิทยาตลาด
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อีเธอเรียมปรับตัวขึ้นแล้วมากกว่า *95%* โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนล่าสุด ราคาพุ่งขึ้น *8.7%* แตะระดับ 4,591 ดอลลาร์ หรือราว 6.37 ล้านบาท ขณะที่เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในปี 2021 ที่ 4,946 ดอลลาร์แล้ว ปัจจุบันราคายังต่ำกว่าอยู่เพียง *6.9%* เท่านั้น ภายใต้กระแสการซื้อขายที่ผันผวนระหว่างช่วง 4,404–4,762 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรยากาศตลาดดูจะเปราะบางและขับเคลื่อนด้วย *พฤติกรรมการตัดสินใจของกลุ่มวาฬอย่างชัดเจน*
ในแง่ของแรงขาย ข้อมูลจากนักวิเคราะห์อย่าง อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ระบุว่า ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา *มีการเทขายอีเธอเรียมจากกระเป๋าเงินขนาดใหญ่รวมกว่า 90,000 ETH* ซึ่งคิดเป็นกำไรรวมกว่า 400 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5,560 ล้านบาท การเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าเป็นการขายทำกำไรล่วงหน้า ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะประกาศทิศทางนโยบายดอกเบี้ย โดยยอดคงเหลือของกลุ่มนี้หลังการขาย ยังคงสูงอยู่ที่ 15.4 ล้าน ETH
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายยังคงแสดง *มุมมองเชิงบวก* โดยเฉพาะจากฝั่งนักลงทุนสถาบัน PelinayPA เปิดเผยว่า ‘ค่าพรีเมียมของอีเธอเรียมในตลาดฟิวเจอร์ส’ หรือ FMP (Fund Market Premium) ฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวที่มี *สัญญาณการซื้อจากเงินทุนสถาบัน* เข้ามาอย่างสดใหม่
ในด้านเทคนิค อีเธอเรียมกำลังไต่ระดับสูงขึ้นภายในช่องแนวโน้มขาขึ้น และหากสามารถทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 4,850 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.77 ล้านบาท) ได้อย่างเด็ดขาด ก็มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ (ราว 6.95 ล้านบาท) ในระยะสั้น นักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นพ้องกันว่า *หากกลุ่มวาฬไม่เร่งเทขาย หรือมีแรงซื้อจากสถาบันเข้ามาชดเชย ก็ยังมีพื้นที่สำหรับการปรับขึ้นต่อ*
“*การตัดสินใจของกลุ่มวาฬในเวลานี้ คือตัวแปรสำคัญที่ชี้ชะตาทิศทางของอีเธอเรียมในรอบใหม่นี้*” เป็นความเห็นที่ได้รับการขานรับในวงกว้าง หากพวกเขาเลือกถือครองต่อ ความเป็นไปได้ที่อีเธอเรียมจะทำ *จุดสูงสุดใหม่* ก็อาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ความคิดเห็น 0