รายงานล่าสุดจากบริษัทไซเบอร์ซ(Cyvers) เปิดเผยว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์ในอุตสาหกรรมคริปโตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกรณี ‘Pig Butchering’ หรือการหลอกลวงทางการเงินรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสร้างความเสียหายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 197,000 ล้านบาท กลุ่มอายุที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือช่วง 30-49 ปี ทำให้ผู้ลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
ไซเบอร์ซได้ทำการวิเคราะห์แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมากกว่า 150 แห่งในปี 2024 และพบว่ามีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงบนบล็อกเชนอีเธอเรียม(ETH) มากกว่า 1.15 ล้านรายการ เป้าหมายหลักของอาชญากรคริปโตคือ ‘เว็บเทรดรายใหญ่’ ผู้ให้บริการชำระเงิน ธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโต และแพลตฟอร์มการลงทุนสถาบัน
กลโกง Pig Butchering นี้มีลักษณะแบบ ‘ฉ้อโกงการเงินแบบคลาสสิก’ ผสมผสานกับการหลอกล่อให้ลงทุน โดยอาชญากรมักใช้เวลาสร้างความไว้วางใจกับเหยื่อเป็นเวลานาน ก่อนจะหลอกให้โอนเงินจำนวนมหาศาล สินทรัพย์ที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในคดีนี้คือ ‘สเตเบิลคอยน์’ อย่างเทเธอร์(USDT) และอีเธอเรียม นอกจากนี้ พวกเขายังใช้ ‘ครอสเชนบริดจ์’ การซื้อขายผ่าน ‘OTC’ และการฟอกเงินผ่าน ‘Money Mules’ เพื่อปกปิดร่องรอยธุรกรรม
นักต้มตุ๋นมักเริ่มต้นด้วยการทำธุรกรรมขนาดเล็กเพื่อสร้างความไว้วางใจ จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนเงินที่ขอให้เหยื่อลงทุน วิธีการนี้มีความคล้ายคลึงกับ ‘Ponzi Scheme’ แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม เมื่ออุตสาหกรรมคริปโตเติบโตขึ้น กลยุทธ์ของเหล่ามิจฉาชีพก็มีความซับซ้อนขึ้นตามไปด้วย
ไซเบอร์ซเน้นย้ำว่า “เว็บเทรดและสถาบันทางการเงินควรเสริมสร้างระบบบริหารความเสี่ยง ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละประเทศต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและควบคุมกิจกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโต”
ความคิดเห็น 0