ผู้บริหารธนาคารดีบีเอสฮ่องกง เตือนว่ากฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ *สเตเบิลคอยน์* อาจเป็นอุปสรรคต่อการซื้อขายตราสารอนุพันธ์บนบล็อกเชน โดยเฉพาะในระบบ *ดีไฟ (DeFi)* ซึ่งอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากข้อกำหนดด้าน *การป้องกันการฟอกเงิน (AML)* และ *การยืนยันตัวตนลูกค้า (KYC)*
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) สื่อต่างประเทศรายงานว่า เซบาสเตียน พาราเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีบีเอสฮ่องกง(DBS) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า การใช้ *สเตเบิลคอยน์* เป็นสินทรัพย์อ้างอิงสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์บนบล็อกเชน ภายใต้ข้อบังคับการเงินของฮ่องกงในปัจจุบันนั้น “เกือบเป็นไปไม่ได้” พร้อมระบุว่าองค์กรมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องตามกฎหมาย โดยจะติดตามความเคลื่อนไหวเชิงนโยบายอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทางการฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายกำกับดูแล *สเตเบิลคอยน์* อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กฎหมายนี้มีจุดเด่นสำคัญคือ *การลงโทษทางอาญากับบุคคลหรือองค์กรที่มีการจัดหาและโปรโมตสเตเบิลคอยน์โดยไม่ได้รับอนุญาต* พร้อมทั้งเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อสร้างความชัดเจน
การบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรม *สเตเบิลคอยน์* อย่างเห็นได้ชัด หลายบริษัทในฮ่องกงที่ดำเนินการด้านนี้เผยว่าประสบกับ *ความสูญเสียทางรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์* โดยบางรายมีรายได้ร่วงถึงระดับสองหลัก
อย่างไรก็ตาม จุดมุ่งหมายของรัฐบาลฮ่องกงคือเพื่อรักษา *เสถียรภาพทางการเงิน* และป้องกัน *ปัญหาการฟอกเงิน* รวมไปถึงการสร้างรากฐานสำหรับการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก *คำ* แต่วงการ *ดีไฟ* กลับแสดงความกังวลว่าแนวทางที่เข้มงวดจนเกินไปอาจส่งผลให้ *การเติบโตและเสรีภาพของระบบไร้ศูนย์กลางชะลอตัวลง* ได้ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0