EU เตรียมรวมอำนาจกำกับดูแลคริปโตไว้ที่ ESMA หวังเพิ่มประสิทธิภาพภายใต้กรอบ MiCA

สหภาพยุโรป(EU) กำลังพิจารณาแนวทางในการเพิ่ม ‘อำนาจควบคุม’ ต่อบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเตรียมโอนอำนาจกำกับดูแลจากหน่วยงานแต่ละประเทศไปยังสำนักงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ยุโรป(ESMA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการบังคับใช้กรอบกำกับดูแลคริปโตใหม่ของ EU ภายใต้โครงการตลาดสินทรัพย์คริปโต(MiCA) ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกันมากขึ้น

เวเรนา รอส(Verena Ross) ประธาน ESMA เปิดเผยกับ *Financial Times* เมื่อไม่นานมานี้ว่า คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังผลักดันให้โอนอำนาจด้านกำกับดูแลทางการเงิน รวมถึงคริปโต จากหน่วยงานระดับประเทศเข้าสู่มือของ ESMA โดยเชื่อว่าแนวทางนี้จะนำไปสู่การสร้าง ‘ตลาดการเงินที่บูรณาการและมีศักยภาพแข่งขันระดับโลก’ ได้

ภายใต้กรอบ MiCA ในปัจจุบัน ใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลยังออกโดยหน่วยงานกำกับแต่ละประเทศ เช่น ลิทัวเนียที่ออกใบอนุญาต MiCA แรกให้กับโรบินฮู้ดยุโรป, มอลตาที่ยอมรับการดำเนินงานของ OKX และคริปโตดอทคอม รวมถึงลักเซมเบิร์กที่อนุญาตให้บิทแสตมป์และคอยน์เบสดำเนินกิจการ ส่งผลให้ประเทศขนาดเล็กกลายเป็นผู้นำในขั้นตอนเริ่มต้นของการนำ MiCA ไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม ข้อแตกต่างในด้านมาตรฐานและกระบวนการออกใบอนุญาตระหว่างประเทศสมาชิกกำลังกลายเป็น ‘ปัญหา’ ซึ่งทำให้ตลาดเกิดการกระจายตัวและขาดประสิทธิภาพ รอสชี้ว่า “ระบบกำกับดูแลที่แยกกันในแต่ละประเทศนั้นทำให้ต้องลงทุนสร้างทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานซ้ำซ้อน” พร้อมเสนอว่า ‘การรวมอำนาจกำกับดูแลไว้ที่ส่วนกลาง’ อาจเป็นทางออกเพื่อยกระดับความสอดคล้องในการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ ESMA เองเคยวิจารณ์มอลตาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เรื่อง ‘การออกใบอนุญาตที่ไม่เหมาะสม’ ตั้งแต่ขั้นตอนบางส่วน

EU กำลังมองหาวิธีเร่งสร้างความ ‘เป็นหนึ่งเดียวในตลาดการเงิน’ โดยครอบคลุมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว สำหรับแนวคิดในการโอนอำนาจควบคุมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อข้อจำกัดที่พบหลังเริ่มบังคับใช้ MiCA เท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็น ‘ก้าวสำคัญ’ ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อการกำกับดูแลผู้ให้บริการคริปโตทั่วทั้งภูมิภาคอีกด้วย