ดาวเทียมในวงโคจรคงที่ของโลก (GEO) ถูกพบว่ากำลังส่งข้อมูล ‘สำคัญแต่ไม่เข้ารหัส’ ที่สามารถรับสัญญาณได้โดยใช้อุปกรณ์ราคาประมาณ 830,000 วอน (ราว 22,000 บาท) เท่านั้น สร้างความกังวลอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางไซเบอร์และการสื่อสารทางทหาร
เมื่อวันที่ 24 ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย รวม 6 คน เปิดเผยผลการศึกษาที่ใช้เวลาหลายเดือนในการตรวจสอบสัญญาณจากดาวเทียมแบบ GEO โดยใช้เสาอากาศดาวเทียมเชิงพาณิชย์ที่ติดตั้งบนดาดฟ้าของอาคารในเมืองซานดิเอโก สหรัฐฯ พบว่ามีดาวเทียมอย่างน้อย 39 ดวง ซึ่งหลายดวง ‘ส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมแบบไม่เข้ารหัส (plaintext)’ รวมถึงข้อมูลระดับความลับ
ในบรรดาข้อมูลดังกล่าว มีทั้งข้อความ SMS ของประชาชนทั่วไป ‘กุญแจเข้ารหัสของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Cellular Encryption Keys)’ ไปจนถึงข้อมูลของระบบสื่อสารทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ข้อเท็จจริงที่สามารถดักฟังข้อมูลเหล่านี้ได้โดยอุปกรณ์ทั่วไป ถือเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ และสร้างความวิตกให้กับผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย
การสื่อสารผ่านดาวเทียมมีความสำคัญในพื้นที่ห่างไกลหรือบริเวณทะเลที่ไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายแบบใช้สายได้ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่า “การส่งข้อมูลที่อ่อนไหวในรูปแบบไม่เข้ารหัสนั้น เป็นความเสี่ยงที่แท้จริง ซึ่งหากแฮกเกอร์หรือกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ใช้เจาะระบบในภาคส่วนสำคัญอย่างระบบทหารหรือพลังงาน อาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง”
การศึกษานี้ได้เน้นย้ำถึง ‘ความไม่พร้อมของระบบสื่อสารในทรัพยากรด้านอวกาศ’ และเรียกร้องให้บังคับใช้การเข้ารหัสสำหรับการส่งข้อมูลผ่านดาวเทียม GEO โดยด่วน นอกจากนี้ วงการคริปโตก็ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้เช่นกัน โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ ‘การเชื่อมต่อบล็อกเชนกับระบบดาวเทียม’ ที่ยังขาดการป้องกันข้อมูลอย่างเพียงพอ
“การที่ข้อมูลจากดาวเทียมสามารถรั่วไหลได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่แม้แต่ทรัมป์ก็ยังต้องตกใจ” ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งกล่าว พร้อมย้ำว่า “รัฐบาลและอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อยกระดับระบบป้องกันข้อมูลในยุคดิจิทัล” ความเห็นดังกล่าวสะท้อนเสียงเรียกร้องจำนวนมากในอุตสาหกรรมเครือข่ายและบล็อกเชน ที่มุ่งความสนใจไปที่ประเด็น ‘การเข้ารหัสข้อมูล’ ที่ควรกลายเป็นมาตรฐานพื้นฐานในทุกระดับของการสื่อสาร.
ความคิดเห็น 0