นักลงทุนแห่ใช้ ChatGPT วิเคราะห์ข่าวคริปโต ช่วยแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณซื้อ-ขายอัตโนมัติ

ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และ ‘ข่าว’ คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคา นักลงทุนจึงต้องให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนหัวข้อข่าวที่สำคัญให้กลายเป็น ‘สัญญาณการซื้อขาย’ และหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ ‘AI อย่าง ChatGPT’

ช่วงหลังมานี้ การใช้งานปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์อย่าง ChatGPT เพื่อวิเคราะห์ข่าวคริปโตและตีความออกมาเป็นสัญญาณซื้อ-ขายได้รับความสนใจมากขึ้น โดย *คำสั่งที่ป้อนให้ AI (prompt)* ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เพราะยิ่งคำถามชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเท่าไร ผลลัพธ์จาก AI ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อการลงทุนในชีวิตจริง

ตัวอย่างหนึ่งคือกรณีของ ‘ข่าวเกี่ยวกับ ไพเน็ตเวิร์ก(Pi Network)’ ที่มีพาดหัวว่า “ราคา Pi Network ใกล้แตะระดับต่ำสุดในประวัติการณ์ พร้อมแรงกดดันจากฝั่งอุปทานที่เพิ่มขึ้น” เมื่อป้อนข้อความนี้ลงใน ChatGPT ระบบจะ ‘ตีความเป็นสัญญาณขาย’ โดยพิจารณาจากข้อมูลอย่างจำนวนเหรียญ PI ที่ปลดล็อกสูงถึง 126.6 ล้านเหรียญ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นของอุปทาน 1.87% รวมถึงปัจจัยทางเทคนิค เช่น การที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนหลัก และการที่ RSI อยู่ในช่วงขาลง จึงมีการเตือนถึง ‘แนวโน้มขาลงในระยะสั้น’

อย่างไรก็ตาม ChatGPT ยังระบุด้วยว่าในบางสถานการณ์ ข่าวนี้อาจถูกตีความว่าเป็น ‘โอกาสการลงทุนระยะยาว’ ได้เช่นกัน เนื่องจากราคาที่ใกล้ระดับต่ำสุดอาจสะท้อนภาวะ ‘ถูกขายออกมากเกินไป’ หรือที่เรียกว่า oversold ซึ่งสำหรับนักลงทุนบางรายก็อาจกลายเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ แต่ประเด็นนี้ไม่สามารถตัดสินใจได้จากเนื้อข่าวเพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์กราฟเพิ่มเติม, ข้อมูลออนเชน, รวมถึงการจัดการความเสี่ยงในการถือครอง

การวิเคราะห์ของ AI อย่าง ChatGPT จึงควรถูกมองว่าเป็น ‘เครื่องมือเสริม’ ที่ช่วยสร้างมุมมองต่อทิศทางตลาด มากกว่าจะเป็นเครื่องมือทำนายที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น เราไม่ควรยึดติดกับการตัดสินของ AI เพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้ควบคู่กับแหล่งข้อมูลอื่น และเปรียบเทียบกับเป้าหมายการลงทุนกับระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้

สุดท้าย การแปลงข้อมูลข่าวสารเป็น ‘สัญญาณซื้อขาย’ ผ่าน AI ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการเรียนรู้ที่ดีสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ และยังช่วยเปิดทางให้กับมุมมองใหม่ๆ ในการอ่านตลาด แต่หากต้องการนำผลการวิเคราะห์ของ AI ไปใช้จริง ต้องอาศัยวิธีคิดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ และมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพราะแม้ AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ความรับผิดชอบทั้งหมดยังคงอยู่ที่ ‘ตัวผู้ใช้งานเอง’