สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การเจรจาการค้าระหว่าง *สหรัฐฯ และจีนมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม* ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่า *แผนการเรียกเก็บภาษี 100% ของประธานาธิบดีทรัมป์* อาจถูกยกเลิก
จากรายงานเมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) เบสเซนต์ ระบุระหว่างการแถลงข่าวภายในทำเนียบขาวว่า การที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนว่าอาจเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเป็น 100% กลายเป็น “เครื่องมือในการต่อรองที่สำคัญ” พร้อมกล่าวว่า “ผลลัพธ์คือ เราเข้าใกล้การสร้าง *กรอบข้อตกลงการค้าฉบับสมบูรณ์* กับจีน และขณะนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถเปิดเจรจาในประเด็นอื่น ๆ ได้”
หากกรอบข้อตกลงดังกล่าวเป็นจริง จะส่งผลให้ทรัมป์ต้อง *ล้มเลิกมาตรการภาษีขั้นสูง* ที่เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นนโยบายที่เคยสร้างความกังวลอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก โดยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังตลาดคริปโต โดยราคาบิตคอยน์(BTC) เคยร่วงหนักแตะระดับ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.53 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม วงในอุตสาหกรรมคาดว่าหากการเจรจาคืบหน้าอย่างแท้จริง จะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อทั้งตลาดการเงินและตลาดคริปโตที่กำลังเผชิญสภาวะซบเซา โดยนักวิเคราะห์จากสื่อระหว่างประเทศรายหนึ่งให้ *ความเห็น* ว่า “เมื่อความตึงเครียดทางการค้าผ่อนคลายลง การไหลเวียนของเงินทุนทั่วโลกจะกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น และนั่นจะหนุนให้บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงกลับมาอีกครั้ง”
แนวทางการเจรจาโดยใช้ภาษีเป็นเครื่องมือของทรัมป์ซึ่งเริ่มเห็นผลในกรณีกับจีน ทำให้ตลาดเริ่มจับตาว่า *ยุทธศาสตร์การทูตเชิงบีบคั้นแบบไม่พึ่งกำลังทหารนี้* อาจถูกนำไปใช้กับกรณีอื่น ๆ ที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น 0