ไมโครกลยุทธ์(MSTR) บริษัทที่ถือครองบิตคอยน์(BTC) เป็นสินทรัพย์หลัก รายงานผลกำไรสุทธิกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 113,000 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งสูงเกินกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นเกือบ 6% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
ตามรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 บริษัทระบุว่ามีกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 8.42 ดอลลาร์ (ประมาณ 11,430 บาท) สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่อยู่ที่ 8.15 ดอลลาร์ (ประมาณ 11,060 บาท) พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 340 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 12,760 ล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลกำไรในไตรมาสนี้ยังคงต่ำกว่าสถิติในไตรมาส 2 ที่เคยทำได้สูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 361,000 ล้านบาท)
แม้ว่าราคาหุ้นของไมโครกลยุทธ์จะปิดตลาดลดลง 7.5% อยู่ที่ 254.57 ดอลลาร์ (ประมาณ 34,570 บาท) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่หลังจากการประกาศผลประกอบการ ราคาหุ้นได้ดีดกลับ 5.7% แตะระดับ 269 ดอลลาร์ (ประมาณ 36,520 บาท) ในช่วงการซื้อขายนอกเวลา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งมีส่วนช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ผลประกอบการในครั้งนี้ยังตอกย้ำถึงข้อได้เปรียบของกลยุทธ์การถือครองบิตคอยน์ระยะยาวในช่วงที่ราคาคริปโตเคอร์เรนซีปรับตัวขึ้น โดยไมโครกลยุทธ์ถูกมองว่าเป็นต้นแบบของบริษัทที่ใช้การลงทุนในบิตคอยน์เพื่อกำหนดทิศทางกลยุทธ์องค์กร และนักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์อย่างมากหากราคาบิตคอยน์กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งในอนาคต
 
                     
                                             
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                                                                                     
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                 
                                                
ความคิดเห็น 0