17 ปีไวท์เปเปอร์บิตคอยน์(BTC): รัฐมนตรีคลังสหรัฐยกย่อง 'ไม่เคยหยุด' สะเทือนวงการคริปโต

ในโอกาสครบรอบ 17 ปีของการเผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ของบิตคอยน์(BTC) การแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ สกอตต์ เบสเซนต์(Scott Bessent) ได้สร้างแรงสะเทือนต่อผู้มีบทบาทในวงการคริปโตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ก่อตั้งอีด้า(ADA) ที่ชื่นชมคำกล่าวนี้ว่าเป็น *“ช่วงเวลาที่เปี่ยมเวทมนตร์”*

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2008 ซาโตชิ นากาโมโตะได้เผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์ของบิตคอยน์ผ่านกลุ่มเมลด้านวิทยาการเข้ารหัส และจนถึงปัจจุบัน บิตคอยน์ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เคย เพื่อฉลองวาระสำคัญนี้ สกอตต์ เบสเซนต์จึงได้ทวีตว่า *“17 ปีหลังจากการเผยแพร่ไวท์เปเปอร์ บิตคอยน์ยังคงทำงาน และแข็งแรงยิ่งกว่าที่เคย บิตคอยน์ไม่เคยหยุด”*

*ความคิดเห็น*: การแสดงความเห็นโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเช่นนี้ ถือเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความทนทานและความน่าเชื่อถือของบิตคอยน์อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่ามี ‘นัยสำคัญ’ ต่อทิศทางนโยบายในอนาคต

ชาร์ลส์ ฮอสกินสันได้กล่าวเสริมว่า *“การที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐมาให้ความเชื่อถือในบิตคอยน์แบบนี้ ไม่ต่างอะไรจาก ‘ช่วงเวลาที่มีมนต์สะกด’ สำหรับวงการนี้”*

สกอตต์ เบสเซนต์ เคยทำงานร่วมกับนักลงทุนชื่อดัง เรย์ ดาลิโอ จากบริจวอเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งในภาครัฐ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังคนแรกของสหรัฐที่แสดงท่าทีเชิงบวกต่อคริปโตอย่างชัดเจน คำกล่าวล่าสุดของเขาสร้างความคาดการณ์ว่า *รัฐบาลสหรัฐอาจมีแนวโน้มสนับสนุมากขึ้นต่อบิตคอยน์ในเชิงนโยบายและกฎระเบียบในอนาคต*

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของอีด้า(ADA) ก็มีข่าวดีจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบนิเวศเช่นกัน โดยโทเคนแบบห่อ cbADA ของแพลตฟอร์ม Coinbase ได้เริ่มเปิดตลาดให้ยืมเหรียญบนบล็อกเชนของเบส(Base chain) นำไปสู่ความคาดหวังว่า *ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)* จะมีการขยายตัวข้ามบล็อกเชนมากขึ้น

นอกจากนี้ อินพุตเอาต์พุต (Input Output) บริษัทพัฒนาเครือข่ายคาร์ดาโน ยังได้เปิดตัวการอัปเกรดใหม่ในชื่อว่า *‘อูโรโบรอส ฟาลังซ์’* ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมสูงสุดถึง 30% และเพิ่มความสามารถในการรับมือกับการโจมตีจากระบบวางเดิมพันบนเครือข่ายได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บทความนี้ถูกเขียน ราคาของอีด้า(ADA) อยู่ที่ 0.61 ดอลลาร์ หรือประมาณ 817 บาท ซึ่งลดลง 24.55% ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี บวกกับการสนับสนุนจากบุคคลระดับสูงในภาครัฐ *ตลาดกำลังจับตา* ทิศทางของเหรียญนี้อย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป