ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ตลาดบิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับภาวะ *ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง* ท่ามกลางวิกฤตการปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ นักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงและเข้าซื้อสเตเบิลคอยน์ในวงกว้าง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็น ‘สัญญาณชัดเจนของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง’
จากผลวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยบล็อกเชนในญี่ปุ่นอย่าง XWIN เปิดเผยว่า ปริมาณบิตคอยน์ที่ถูกเก็บไว้ในกระดานซื้อขายมีการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ซึ่งสามารถตีความได้ว่านักลงทุนเริ่มเตรียมพร้อมที่จะขายเหรียญ ในขณะเดียวกัน นักขุดบิตคอยน์ก็กำลังปล่อยเหรียญที่ถืออยู่ออกสู่ตลาด โดยปริมาณที่ถือครองอยู่ในขณะนี้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี 2025 ทั้งนี้ สาเหตุหลักคือภาครัฐยกเลิกการสนับสนุนค่าไฟและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ความเคลื่อนไหวที่สังเกตได้มากที่สุดคือการถอนตัวของเงินทุนจำนวนมากจากตลาดสเตเบิลคอยน์ XWIN ระบุว่านี่คือการ ‘หนีเข้าสู่สินทรัพย์ที่ผูกกับเงินดอลลาร์’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการถอนตัวจากสินทรัพย์เสี่ยงในระดับกว้าง โดยสัญญาณทั้งสาม ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของ BTC บนกระดาน, การลดลงของเหรียญในมือของนักขุด และการไหลออกของสเตเบิลคอยน์ เป็นการยืนยันถึงแนวโน้มเดียวกันคือ ‘การหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ที่มีลักษณะเก็งกำไร’
ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ก็แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลอย่างรุนแรง โดยดัชนีกลับลงไปอยู่ในระดับ ‘ความกลัวสุดขีด’ ที่คล้ายกับช่วงวิกฤตสภาพคล่องของภาคธนาคารในปี 2023 *ความคิดเห็น* จากตลาดสะท้อนว่าความเชื่อมั่นอยู่ในจุดต่ำสุด
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสฟื้นตัวอยู่บ้าง XWIN คาดการณ์ว่า หากทางการสามารถแก้ไขปัญหางบประมาณได้ ตลาดอาจเกิดการรีบาวน์ในระยะสั้น แต่การฟื้นตัวของการลงทุนและความเชื่อมั่นจะยังถูกจำกัดจนกว่านโยบายทางการเงินจะมีความชัดเจน โดยเน้นย้ำว่า “นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาสำหรับการเข้าซื้อที่ราคาต่ำ แต่เป็นช่วงที่ต้องมีทั้งสภาพคล่องและความอดทน”
ในอีกด้านหนึ่ง ยังมีเม็ดเงินขนาดใหญ่ ‘รอจังหวะ’ ลงทุน ตลาดนักวิเคราะห์ JA มาร์ตอน อ้างว่า ในรอบ 30 วันที่ผ่านมา มีสเตเบิลคอยน์มูลค่าราว 7.3 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.7 ล้านล้านวอน) ไหลเข้าสู่กระดานซื้อขาย Binance ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคล้ายคลึงกับช่วงก่อนบิตคอยน์แตะระดับ 108,000 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2024 *ความคิดเห็น* บ่งชี้ว่ามีผู้เล่นจำนวนมากที่รอสัญญาณซื้อจากราคาที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ตาม การสะสม ‘เงินรอซื้อ’ นี้เองก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความไม่แน่นอนของตลาด โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่าตลาดรวมของคริปโตเคอร์เรนซีหดตัวลง 4.0% ไปอยู่ที่ 3.54 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,719 ล้านล้านวอน) ขณะที่บิตคอยน์ร่วงลง 3.3% เหลือ 104,100 ดอลลาร์ ส่วนอีเธอเรียม(ETH) และโซลานา(SOL) ก็ตกลง 6.2% และ 11.1% ตามลำดับ
วิกฤตสภาพคล่องในรอบนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการ ‘ปรับฐานราคา’ แต่ยังสะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพเชิงโครงสร้างของตลาดคริปโต ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัญหาการคลังของสหรัฐฯ นักลงทุนอาจต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์การกระจายการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวใหม่อีกครั้ง
ความคิดเห็น 0