สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เผยกรอบกำกับดูแลใหม่สำหรับทรัพย์สินดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘โปรเจกต์คริปโต (Project Crypto)’ ที่เริ่มต้นตั้งแต่กรกฎาคม 2025 กรอบนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแยกแยะระหว่าง *คริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นหลักทรัพย์กับที่ไม่ใช่หลักทรัพย์* อย่างชัดเจน โดยกำหนดแนวทางใหม่ในการประเมินสถานะทางกฎหมายของโทเคนดิจิทัล
พอล แอทกินส์(Paul Atkins) ประธาน SEC กล่าวระหว่างการบรรยายล่าสุดว่า ปัจจุบัน *โครงสร้างทางกฎหมายของคริปโตส่วนใหญ่ไม่ควรถือว่าเป็นหลักทรัพย์อีกต่อไป* และหลายโทเคนไม่เข้าข่าย ‘สัญญาการลงทุน’ ตามเกณฑ์ *Howey Test* ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญที่ใช้วัดโทเคนรูปแบบหลักทรัพย์ โดยระบุว่า “คริปโตส่วนใหญ่ที่มีการซื้อขายอยู่ในตอนนี้ ไม่ควรนับเป็นหลักทรัพย์อีกต่อไป”
ตามเกณฑ์ใหม่ *โทเคนแบบดิจิทัลคอมมอดิตี้ เช่น โทเคนโครงข่าย* และ *สินทรัพย์สะสมอย่าง NFT* จะไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ถือครองไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนจากการดำเนินการของผู้อื่น ทั้งนี้ *โทเคนเพื่อการใช้งาน* เช่น ตั๋วผ่านประตู การยืนยันตัวตน กลุ่มสมาชิก จะพ้นจากเขตอำนาจการกำกับดูแลของ SEC ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม *โทเคนประเภทหลักทรัพย์ และโทเคนที่เชื่อมโยงกับสัญญาลงทุน* ยังคงอยู่ภายใต้การกำกับ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ออกโทเคนยังมีข้อผูกพันตามสัญญา แต่ SEC ชี้ว่า หากผู้ออกทำนิติกรรมยุติสัญญาและหยุดการดูแล โทเคนนั้นจะไม่จัดเป็นหลักทรัพย์อีกต่อไป แม้มีการซื้อขายต่อภายในตลาด
เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม SEC มีแผนเปิดตัว *ข้อยกเว้นการกำกับดูแลกรณีพิเศษ* และ *ระบบเสนอขายพิเศษ* สำหรับโทเคนบางประเภท โดยอยู่ระหว่างความร่วมมือกับสภาคองเกรส, สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC), ธนาคารผู้กำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อออกแบบระบบที่ *สนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศคริปโต* โดยไม่ละเลยการคุ้มครองนักลงทุน
ทั้งนี้เกณฑ์ Howey Test ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการพิจารณาโทเคนว่าเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ จะถูกใช้ด้วยความ *ยืดหยุ่นมากขึ้น* เพื่อลดความสับสนและรองรับพัฒนาการของตลาดดิจิทัล
ในอีกด้าน การผลักดันระบบกำกับที่ชัดเจน ยังได้รับแรงเสริมจากฝ่ายนิติบัญญัติและหน่วยงานอื่นๆ ของสหรัฐเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน วุฒิสภาคณะกรรมาธิการด้านเกษตรมีการนำเสนอร่างกฎหมายที่แยก *ริปเปิล(XRP)* ออกจากหลักทรัพย์และจัดอยู่ภายใต้การกำกับของ CFTC แทน ส่วนกรมสรรพากรของสหรัฐ (IRS) ก็เผยแนวทาง *ยกเว้นภาษีรางวัลจากการสเตกกิ้ง* สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ETP (สินทรัพย์ดิจิทัลแบบกองทุน ETF)
SEC ชี้แจงว่าต่อให้ทรัพย์สินดิจิทัลบางประเภทจะไม่อยู่ภายใต้การกำกับเป็นหลักทรัพย์ แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับด้านการต่อต้านการฉ้อโกงทุกประการ
การประกาศในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ *แนวทางกำกับดูแลคริปโตของสหรัฐ* ซึ่งที่ผ่านมา ความคลุมเครือเรื่องสถานะของโทเคนส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโปรเจกต์ต่างๆ และการเข้าระดมทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม หากมีกรอบชัดเจนมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความสามารถในการคาดการณ์ของอุตสาหกรรม พร้อมทั้งเสริมความมั่นคงทางกฎหมายให้ตลาดคริปโตสหรัฐในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0