บริษัท เมทาแพลนเน็ต(Metaplanet) จากญี่ปุ่นซึ่งมีจุดยืนด้านกลยุทธ์ ‘บิตคอยน์(BTC) เป็นศูนย์กลาง’ กำลังเดินหน้าระดมทุนครั้งใหญ่ราว 2,800 พันล้านวอน ผ่านการออกหุ้นบุริมสิทธิถาวรชนิดใหม่ให้กับนักลงทุนต่างประเทศ
ตามรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเตรียมออกหุ้นบุริมสิทธิคลาส B จำนวน 23.6 ล้านหุ้น ราคา 900 เยนต่อหุ้น (ประมาณ 5,710 วอน) ภายใต้รูปแบบการจัดสรรบุคคลที่สาม ซึ่งเปิดเผยว่าจะสามารถระดมเงินทุนได้ประมาณ 21,200 ล้านเยน หรือราว 2,847 พันล้านวอน โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญ วันที่ 22 ธันวาคม 2025
บริษัทระบุว่าเป้าหมายหลักของการออกหุ้นครั้งนี้คือ ‘การขยายการถือครองบิตคอยน์’ โดย *หุ้นประเภทนี้มาพร้อมกับเงินปันผลคงที่ปีละ 4.9% และสิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ* ในอัตรา 1 หุ้นต่อมูลค่าที่ตราไว้ 6.34 ดอลลาร์ เมื่อเริ่มจ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นจะได้รับราว 0.078 ดอลลาร์ต่อไตรมาส คิดเป็นประมาณ 78 วอนต่อหุ้น
อย่างไรก็ดี หากราคาหุ้นในตลาดปรับตัวขึ้นและถือระดับสูงกว่า ‘ราคาชำระบัญชี’ 130% ติดต่อกัน 20 วัน เมทาแพลนเน็ตจะสามารถใช้ *สิทธิการซื้อคืน (Call Option)* เพื่อดึงหุ้นกลับมาโดยอิงจากราคาตลาด นอกจากนี้ แม้หุ้นชนิดนี้จะไม่มี ‘สิทธิออกเสียง’ แต่ก็มีสิทธิในการไถ่ถอนได้ภายใต้เงื่อนไขบางประการ
ควบคู่กัน เมทาแพลนเน็ตยังดำเนินการปรับโครงสร้างทุนด้วยการยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นครั้งที่ 20-22 ทั้งหมด และเตรียมออกใบสำคัญแสดงสิทธิใหม่ครั้งที่ 23 และ 24 ให้กับ *อีโวฟันด์ (Evo Fund)* ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนที่จดทะเบียนในหมู่เกาะเคย์แมน โดยยังต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลก่อนดำเนินการต่อได้
ไซมอน เจโรวิช(Simon Gerovich) ซีอีโอของเมทาแพลนเน็ต เปิดเผยผ่าน X (อดีต Twitter) ว่าโครงการหุ้นบุริมสิทธิถาวรนี้มีชื่อว่า ‘เมอร์คิวรี(Mercury)’ โดยเน้นว่า “เงินปันผลคงที่ 4.9% และราคาแปลงสภาพ 1,000 เยน เป็นอีกก้าวสำคัญของกลยุทธ์บิตคอยน์ของเมทาแพลนเน็ต”
ทั้งนี้ การประกาศแผนระดมทุนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (JPX) อาจพิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนที่ถือครองบิตคอยน์ โดยเมทาแพลนเน็ตตั้งแต่ต้นปีนี้ ได้เริ่มปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในบริษัทจำนวนมากให้เป็นบิตคอยน์ และสร้างกระแสความสนใจอย่างมากในแวดวงคริปโต
*ความคิดเห็น:* แม้บางฝ่ายแสดงความกังวลว่าอาจเกิดแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่เมทาแพลนเน็ตดูเหมือนจะเลือกเดินหน้าต่อด้วยแนวทางรุก ทั้งในด้านการเพิ่มทุนและการเพิ่มการถือครองบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง
การดำเนินการครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นเครื่องยืนยันว่า การวางแผนด้านการเงินโดยเน้นบิตคอยน์ไม่ใช่เพียงแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่กำลังพัฒนาเป็นโครงสร้างเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ การออกหุ้นบุริมสิทธิถาวรพร้อมเงื่อนไขการแปลงและการซื้อคืน เป็นการวางโครงสร้างให้นักลงทุนมีความยืดหยุ่นสูง และช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนจากต่างประเทศ
*คำสำคัญ: เมทาแพลนเน็ต, บิตคอยน์(BTC), หุ้นบุริมสิทธิถาวร, กองทุนอีโว(Evo Fund), ระดมทุน, ตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น(JPX)*
ความคิดเห็น 0