โรบินฮู้ดประกาศเดินหน้ารุกตลาดการเงินอินโดนีเซียเต็มรูปแบบ โดยเตรียมเข้าซื้อกิจการฟินเทคท้องถิ่น 2 แห่ง เพื่อเข้าสู่หนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อวันที่ 30 (เวลาท้องถิ่น) โรบินฮู้ด เปิดเผยว่าจะเข้าซื้อ ‘บัวนา แคปิตอล’ บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในอินโดนีเซีย และ ‘PT Pedagang Aset Kripto’ แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาล ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่โรบินฮู้ดเข้าสู่ตลาดอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยเลือกแนวทางการขยายที่สอดคล้องกับกฎระเบียบในพื้นที่แทนการข้ามขั้นหรือเลี่ยงข้อจำกัดทางกฎหมาย
โรบินฮู้ดยังชี้ว่า อินโดนีเซียมีผู้ลงทุนในตลาดทุนถึงราว 19 ล้านคน และนักลงทุนในคริปโตราว 17 ล้านคน ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพทั้งในด้านหุ้นและคริปโต จุดแข็งของดีลนี้คือการได้ฐานลูกค้าเดิมของทั้งสองบริษัท ผสานกับใบอนุญาตที่ช่วยให้สามารถให้บริการได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
แพทริก ชาน(Patrick Chan) หัวหน้าฝ่ายเอเชียของโรบินฮู้ด กล่าวว่า “อินโดนีเซียเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในแวดวงการลงทุน และเป็นเวทีที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการขยายพันธกิจของเราที่ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น”
แม้หลังการเข้าซื้อกิจการ โรบินฮู้ดยังคงให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินท้องถิ่นแก่ลูกค้าของบัวนา แคปิตอล แต่ในระยะยาว บริษัทยังเตรียมขยายบริการที่ครอบคลุมการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ และคริปโตสำหรับลูกค้าอินโดนีเซีย ทั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าดีล ส่วนการซื้อกิจการคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในครึ่งแรกของปี 2026
ตามข้อมูลจาก Chainalysis อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีอัตราการนำคริปโตมาใช้สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ Reuters รายงานว่า ในปี 2024 ปริมาณการซื้อขายคริปโตของอินโดนีเซียแตะ 650 ล้านล้านรูเปีย หรือราว 58.4 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีก่อนหน้า
*คำสำคัญ:* โรบินฮู้ด, อินโดนีเซีย, สินทรัพย์ดิจิทัล, คริปโต, หุ้นสหรัฐฯ
*ความคิดเห็น:* การเลือกซื้อแพลตฟอร์มที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานท้องถิ่นเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและเปิดโอกาสให้โรบินฮู้ดสามารถสร้างการเติบโตในตลาดที่มีศักยภาพสูงได้ตั้งแต่วันแรก
ความคิดเห็น 0