สตูดิโอเกมบล็อกเชน ‘โครโนฟอร์จ(ChronoForge)’ ผู้พัฒนาเกมแอ็กชัน RPG แบบผู้เล่นหลายคนที่ใช้เทคโนโลยี Web3 ประกาศยุติการดำเนินงานอย่างเป็นทางการ สะท้อนสถานการณ์ตึงเครียดของตลาดเกม Web3 ที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา โดยจะปิดให้บริการทั้งหมดในวันที่ 30 ธันวาคมนี้
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) โครโนฟอร์จเปิดเผยผ่านแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า บริษัทไม่สามารถต้านทานปัญหาทางการเงินและแรงกดดันจากหลายปัจจัยได้อีกต่อไป โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โครงการเผชิญปัญหาในการระดมทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ร่วมก่อตั้งต้องใช้ ‘เงินส่วนตัว’ เพื่อประคองการพัฒนา พร้อมลดจำนวนพนักงานลงถึง 80% ท่ามกลางความพยายามหาเงินทุนในการดำเนินงาน
ในโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทีมงานโครโนฟอร์จระบุว่า ได้เดินหน้าพัฒนาเกมต่อเนื่องแม้ไม่มีงบประมาณการตลาด และมียอดรายรับเพียงเล็กน้อย พร้อมเผชิญการถอนตัวของนักพัฒนาร่วมโครงการ และ 'ความรู้สึกด้านลบ' ที่เกิดขึ้นต่อเกมแนว Web3 โดยกล่าวว่า “แม้จะพยายามปรับปรุงระบบและปล่อยแพตช์อย่างต่อเนื่อง แต่ท้ายที่สุดก็ถึงจุดที่ไม่สามารถไปต่อได้”
อุตสาหกรรมเกม Web3 ในช่วงปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ทั้งจาก *ความท้าทายในการหาเงินทุน* รายได้ที่ไม่แน่นอน และผู้ใช้งานลดจำนวนลง ส่งผลให้โครงการที่มีความเสี่ยงหรือยังไม่เข้าที่ต้องพากันยุติลงเรื่อยๆ สำหรับ ‘โครโนฟอร์จ’ กรณีนี้ย้ำเตือนถึงข้อเท็จจริงที่ว่า *แม้จะมีเทคโนโลยี เนื้อหา และทีมงานที่มีความตั้งใจ* ก็ไม่อาจรับประกันความสำเร็จได้เสมอไป
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ปัญหาหลักของตลาดเกม Web3 อยู่ที่โครงสร้างที่เร่งขยายโครงการโดยไม่มีการขยายฐานผู้ใช้อย่างเหมาะสม และ *ต้นแบบธุรกิจที่ขาดความยั่งยืน* จำเป็นต้องมีแผนบริหารการเงินที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น ลดการพึ่งพานักลงทุนภายนอก และมุ่งเน้นการพัฒนาฟีเจอร์ที่สร้างความผูกพันกับผู้เล่น
การหยุดให้บริการของโครโนฟอร์จถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณสำคัญที่สะท้อนว่า *แนวคิดเกมบล็อกเชนแบบมุ่งถือครองสินทรัพย์ในเกมนั้น ยังมีข้อจำกัดในการเข้าสู่ตลาดหลัก* และในภาวะที่อุตสาหกรรมยังไม่ฟื้นตัว การอยู่รอดของแต่ละโครงการก็ยิ่งลำบากมากขึ้นตามไปด้วย
ความคิดเห็น 0