บิตคอยน์(BTC) เสี่ยงร่วงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ หากไม่เร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านควอนตัมภายในปี 2028

บิตคอยน์(BTC) อาจเผชิญกับแรงกดดันราคาครั้งใหญ่ หากยังไม่สามารถพัฒนา ‘เทคโนโลยีต้านทานควอนตัม’ ได้ภายในปี 2028 โดยมีความเป็นไปได้ที่ราคาอาจร่วงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.4 ล้านบาท) ท่ามกลางความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่เริ่มท้าทายระบบความปลอดภัยของระบบคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจัง

เมื่อวันที่ 17 ตามเวลาท้องถิ่น ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ดส์(Charles Edwards) ผู้ก่อตั้งบริษัทการลงทุนด้านคริปโต เคฟริโอล(Capriole) ได้โพสต์ความเห็นผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า “แนวโน้มในปัจจุบันบ่งชี้ว่า ภายในปี 2028 คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะสามารถคุกคามกลไกการเข้ารหัสของบิตคอยน์ได้ และหากอุตสาหกรรมยังไม่พร้อมรับมือ ราคาบิตคอยน์อาจหล่นต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ได้”

คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีความสามารถในการประมวลผลพร้อมกันหลายล้านการคำนวณ ซึ่งทำให้ ‘กลไกการเข้ารหัสแบบเดิม’ เสี่ยงต่อการถูกทะลวง ถือว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญ เนื่องจากในทางทฤษฎี อุปกรณ์เหล่านี้สามารถถอดรหัสคีย์ส่วนตัวของกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ภายในเวลาอันสั้น ทำให้ ‘สินทรัพย์และข้อมูลผู้ใช้งาน’ มีโอกาสหลุดออกสู่ภายนอก

แม้ผู้พัฒนาในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์และบล็อกเชนจะเริ่มวิจัยเทคโนโลยี ‘ต้านทานควอนตัม’ มาระยะหนึ่งแล้ว แต่โซลูชันที่สามารถนำไปใช้งานในระดับเชิงพาณิชย์ได้จริงยังไม่เกิดขึ้น ความคิดเห็นจากเอ็ดเวิร์ดส์ชี้ว่า การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมอาจทำให้เดดไลน์ 2028 กลายเป็นเส้นตายที่ท้าทายเกินคาด

ภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะบิตคอยน์เท่านั้น แต่สามารถขยายผลกระทบไปยัง ‘เกือบทุกโครงการบล็อกเชน’ โดยเฉพาะโครงการที่ใช้ระบบ ‘พิสูจน์ด้วยการทำงาน’ (Proof of Work หรือ PoW) และกระเป๋าเงินที่สร้างมาเป็นเวลานาน ซึ่งมักยังใช้โครงสร้างความปลอดภัยรุ่นเก่า

แม้ในปัจจุบันยังไม่พบกรณีการโจมตีด้วยอุปกรณ์ควอนตัมในโลกจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยืนยันว่ายังมีเวลาเพียงไม่กี่ปีก่อนที่ภัยนี้จะกลายเป็นของจริง บางโครงการเริ่มทดสอบ ‘ระบบเข้ารหัสต้านทานควอนตัม’ แล้ว เช่นเดียวกับแวดวงวิชาการและหน่วยงานรัฐที่เร่งวิจัยมากขึ้น

ทิศทางในอนาคตของบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ จึงขึ้นอยู่กับว่า ‘พวกเขาจะปรับตัวได้เร็วแค่ไหน’ ท่ามกลางยุคสมัยของเทคโนโลยีควอนตัมที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว