แคโรไลน์ เอลลิสัน อดีตรองผู้บริหารร่วมของอลาเมดา รีเสิร์ช เตรียมได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดในวันที่ 21 มกราคม 2026 จากโทษจำคุก 2 ปีที่เธอได้รับ ซึ่งเร็วกว่าเดิมราว 10 เดือน ตามข้อมูลของสำนักงานเรือนจำกลางสหรัฐ การผ่อนผันโทษในครั้งนี้มีเบื้องหลังจากพฤติกรรมการจำคุกที่เป็นแบบอย่าง และการให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสอบสวนคดีล่มสลายของเอฟทีเอ็กซ์(FTX)
เอลลิสันได้ยอมรับผิดเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ฐานสมรู้ร่วมคิดและฉ้อโกงในคดีของเอฟทีเอ็กซ์ พร้อมเข้าร่วมให้ปากคำในฐานะพยานปากสำคัญในการพิจารณาคดีของแซม แบงก์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ในปีถัดมา การให้การของเธอมีส่วนสำคัญต่อคำพิพากษา โดยศาลตัดสินว่าแบงก์แมน-ฟรีดมีความผิดหลายข้อหาและตัดสินโทษจำคุก 25 ปี ซึ่งมีกำหนดพ้นโทษในปี 2044
แม้เอลลิสันจะถูกสั่งให้ริบทรัพย์รวม 11,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 391,000 ล้านบาท) จากคำสั่งของผู้พิพากษาลูอิส แคปแลนเมื่อเดือนกันยายน 2024 พร้อมด้วยโทษจำคุก 2 ปี แต่การได้รับการลดโทษนั้น ส่วนหนึ่งมาจากคำให้การของจอห์น เจ. เรย์ ที่ 3 ผู้จัดการมรดกกรณีล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ ซึ่งระบุว่า เอลลิสันช่วยเหลืออย่าง ‘สำคัญ’ ในการกู้คืนทรัพย์สินและชำระคืนเจ้าหนี้
ภายใต้เงื่อนไขการปล่อยตัว เอลลิสันจะถูกควบคุมอิสรภาพบางส่วน รวมถึงยินยอมไม่กลับเข้าดำรงตำแหน่งในบริษัทสาธารณะหรือตลาดซื้อขายคริปโตใดๆ เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งถือเป็นมาตรการในการคุ้มครองวงการการเงินให้ปลอดจากบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง
ในขณะที่เอลลิสันกำลังจะกลับสู่สังคมด้วยเส้นทางที่มีข้อจำกัด ผู้ร่วมขบวนการเก่าอย่างแบงก์แมน-ฟรีดกลับเผชิญอนาคตที่แตกต่าง เขาได้ยื่นคำร้องขออภัยโทษต่อประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมอ้างว่า การดำเนินคดีนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง โดยยกกรณีของจ้าว ฉางเผิง อดีตซีอีโอของไบแนนซ์ที่ได้รับการผ่อนผันโทษมาเทียบเคียง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐยังคงไม่ให้การยอมรับคำขอในครั้งนี้
‘ความคิดเห็น’: การลดโทษให้เอลลิสันเป็นสัญญาณว่า ความร่วมมือกับภาครัฐสามารถมีบทบาทในการลดความรับผิดชอบทางกฎหมายในคดีคริปโต การเปลี่ยนมุมมองของระบบยุติธรรมครั้งนี้อาจส่งผลให้ผู้บริหารในภาคสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามระเบียบและความโปร่งใสมากขึ้น
ความคิดเห็น 0