สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ ทวีความรุนแรง ส่งผลให้ตลาดคริปโตร่วงหนัก
เมื่อวันที่ 4 (เวลาท้องถิ่น) ตลาดคริปโตปรับตัวลดลง 14.7% จากวันก่อนหน้า ทำให้มูลค่าตลาดรวมลดลงเหลือ 2.64 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,850 ล้านล้านวอน) โดยเฉพาะบิตคอยน์(BTC) ที่ร่วงลง 8.8% นำตลาดเข้าสู่ช่วงขาลงในครั้งนี้
สาเหตุของการร่วงหนักเกิดจากสหรัฐฯ ได้บังคับใช้ภาษีศุลกากรอัตราสูงกับสินค้าจากเม็กซิโก จีน และแคนาดา ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้สูงสุด 15% กับสินค้าสหรัฐฯ ขณะที่แคนาดาประกาศเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% กับสินค้าสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ารวม 1.07 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 156 ล้านล้านวอน) สถานการณ์ตอบโต้เช่นนี้ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนคริปโตมีความกังวลมากขึ้น
ในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายอย่างหนัก ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.76% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วง 2.64% และดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.48% โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์อาจขึ้นอยู่กับแนวโน้มการฟื้นตัวของ Nasdaq 100 เนื่องจากทั้งสองตลาดมีความสัมพันธ์กันในระดับสูง
แรงกดดันในการขายยังเพิ่มขึ้นจากการชำระบัญชีครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต โดยตลอด 24 ชั่วโมง มีการชำระบัญชีตำแหน่งมูลค่ากว่า 977.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.428 ล้านล้านวอน) โดยเป็นสถานะซื้อ (Long) คิดเป็นมูลค่า 831.96 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.214 ล้านล้านวอน) บิตคอยน์และอีเธอเรียม(ETH) เป็นสองสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมีมูลค่าการชำระบัญชีอยู่ที่ 370.52 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 536 พันล้านวอน) และ 193.73 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 278 พันล้านวอน) ตามลำดับ
จากมุมมองด้านเทคนิค สัญญาณตลาดยังคงเปราะบาง โดยกราฟ 4 ชั่วโมงพบว่าราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 200EMA ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียลได้ หากแรงขายยังคงดำเนินต่อไป มูลค่าตลาดโดยรวมอาจลดลงสู่ระดับ 2.47 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,605 ล้านล้านวอน) หรือในกรณีร้ายแรงอาจต่ำกว่าระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,920 ล้านล้านวอน)
นักเทรดบางส่วนยังคงจับตาดูแนวรับสำคัญที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 สัปดาห์ของบิตคอยน์ หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ อาจมีโอกาสเกิดการรีบาวด์ แต่โดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าภาวะตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0