บิตคอยน์(BTC) ทะลุ 98,000 ดอลลาร์! นักวิเคราะห์ชี้โอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่

บิตคอยน์(BTC) ฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลงและทะลุระดับ 98,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.54 ล้านบาท) ได้สำเร็จ ข้อมูลบนบล็อกเชนและตัวชี้วัดทางตลาดบ่งชี้ถึง ‘แนวโน้มขาขึ้น’ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการทำสถิติสูงสุดใหม่อาจอยู่ไม่ไกล

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ปริมาณบิตคอยน์ที่ถือครองในตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์(CEX) ลดลง 13% เหลือเพียง 2.67 ล้าน BTC ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นถึง 62% สิ่งนี้สะท้อนถึง ‘เจตนาการถือครองระยะยาว’ ของนักลงทุน โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีการถอน BTC ออกจากตลาดกว่า 17,000 BTC ซึ่งในจำนวนนี้ 15,000 BTC ออกจาก ‘คอยน์เบส’ ตลาดซื้อขายคริปโตในสหรัฐฯ นับเป็นการถอนเงินครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว อังเดร ดรากอช หัวหน้าทีมวิจัยของบิตไวส์(Bitwise) ในยุโรป กล่าวว่า “วาฬคริปโตใช้โอกาสนี้เข้าซื้อเพิ่ม”

ขณะเดียวกัน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.7% จาก 109.51 มาอยู่ที่ 107.67 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปัจจัยนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ‘ระงับ’ การเรียกเก็บภาษีกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ลาร์ค เดวีส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต กล่าวว่า “หากดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง พร้อมกับการลงทุนจากสถาบันและรัฐบาลในบิตคอยน์ ตลาดอาจเข้าสู่ ‘ช่วงขาขึ้น’ ครั้งใหม่”

อีกปัจจัยสนับสนุนคือ ‘กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต’ ในสหรัฐฯ ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินไหลเข้ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.25 หมื่นล้านบาท) และตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 กองทุนดังกล่าวมีเงินสะสมทะลุ 40 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.48 ล้านล้านบาท) แล้ว สิ่งนี้สะท้อนถึง ‘การขยายตัวของการถือครอง BTC โดยสถาบัน’ ซึ่งช่วยเสริมเสถียรภาพให้กับตลาด

การวิเคราะห์ทางเทคนิคเผยว่าบิตคอยน์กำลังก่อตัวรูปแบบ ‘Bull Flag’ ซึ่งเป็นสัญญาณของ ‘แนวโน้มขาขึ้น’ หากสามารถทะลุแนวต้านที่ 101,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.68 ล้านบาท) ได้สำเร็จ ราคามีโอกาสพุ่งไปถึง 167,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 6.04 ล้านบาท) ดัชนี RSI ยังอยู่ที่ระดับ 63 ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีโมเมนตัมเชิงบวก

แม้ว่าบิตคอยน์จะยังคงมีความผันผวนระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานอย่าง ‘อุปทานลดลง’, ‘เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบัน’ และ ‘ภาวะเงินดอลลาร์อ่อนค่า’ ยังคงกดดันให้ราคาสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป บิตคอยน์มีโอกาสสร้าง ‘ระดับสูงสุดใหม่’ ภายในปีนี้