เว็บ3 กำลังเปลี่ยนอุตสาหกรรมบันเทิงให้เป็นพื้นที่ที่แฟนคลับและศิลปินสามารถมีส่วนร่วมได้มากขึ้น โดยไทเกอร์ รีเสิร์ช(Tiger Research) ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับอุตสาหกรรม แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญ ทั้งข้อจำกัดทางเทคนิคและความผันผวนของตลาดที่อาจขัดขวางการเข้าถึงของผู้ใช้ทั่วไป
จากรายงานพบว่าโครงการบันเทิงที่เริ่มใช้เว็บ3 กำลังพยายามเปลี่ยน ‘แฟนคลับ’ จากผู้บริโภค เป็น ‘ผู้มีส่วนร่วม’ ตัวอย่างเช่น โมดเฮาส์(Modhaus) ในเกาหลีใต้ได้เปิดตัวโมเดลการมีส่วนร่วมผ่าน NFT ที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ มีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของศิลปิน ทั้งกลุ่ม TripleS และ ARTMS ใช้ระบบการลงคะแนนเสียงจากแฟนคลับเพื่อกำหนดสมาชิกยูนิตและทิศทางเนื้อหาของวง นอกจากนี้ บล็อกเชนยังช่วยให้กระบวนการเหล่านี้มีความโปร่งใสมากขึ้น
โครงการโยอาเกะ(Yoake) ของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ใช้เว็บ3 สร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ระหว่างศิลปินและแฟน ๆ ตามรายงานของไทเกอร์ รีเสิร์ช โยอาเกะเปิดให้แฟนคลับลงคะแนนเสียงบนบล็อกเชนเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของศิลปิน รวมถึงสร้างวัฒนธรรมแฟนด้อมที่เป็นประชาธิปไตยขึ้น โดยมีระบบ ‘การให้รางวัลตามการมีส่วนร่วม’ ช่วยให้แฟน ๆ ได้รับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากกิจกรรมสนับสนุนศิลปินของตน
อีกแนวทางที่พัฒนาไปไกลกว่าเดิมคือโครงการอัลท์ทาวน์(Alt.Town) ซึ่งได้นำเสนอโมเดลใหม่โดยใช้โทเคนเป็นตัวสะท้อนมูลค่าของศิลปิน แทนที่จะให้รางวัลแก่แฟนคลับจากการมีส่วนร่วมเพียงอย่างเดียว ระบบนี้ยังคำนึงถึงความนิยมและศักยภาพการเติบโตของศิลปินผ่านการออกและซื้อขายโทเคน วิธีนี้เปิดโอกาสให้ศิลปินอิสระสามารถระดมทุนได้โดยตรงจากแฟน ๆ และนักลงทุน
ไทเกอร์ รีเสิร์ช ได้สรุปผลกระทบของเว็บ3 ต่ออุตสาหกรรมบันเทิงในสามด้านสำคัญ
1. เพิ่ม ‘ความโปร่งใส’ ทั่วอุตสาหกรรม และช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ความนิยมของศิลปิน บล็อกเชนสามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ ได้อย่างชัดเจน และใช้สำหรับวิเคราะห์แนวโน้มของศิลปินกับเนื้อหา นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการแก้ปัญหาเรื่อง ‘การปรับแต่งชาร์ตเพลง’ ที่เคยเป็นประเด็นถกเถียงในอุตสาหกรรม K-pop
2. สนับสนุนการระดมทุน ‘แบบกระจายอำนาจ’ ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยไม่ต้องพึ่งพาค่ายเพลงใหญ่ โมดเฮาส์ เป็นตัวอย่างหนึ่งที่นำโมเดลนี้ไปใช้ ผ่านการระดมทุนจากฝูงชนและการขาย NFT ซึ่งช่วยให้ศิลปินอิสระสามารถเข้าสู่วงการบันเทิงได้ง่ายขึ้น
3. ขยาย ‘เศรษฐกิจแฟนด้อม’ และสร้างแรงจูงใจให้แฟน ๆ ดำเนินบทบาทเชิงรุกมากขึ้น แทนที่จะเป็นเพียงผู้ติดตาม ศิลปินและค่ายสามารถให้รางวัลแก่แฟน ๆ ผ่านกลไกบล็อกเชน เช่น ระบบลงคะแนนเสียงของโยอาเกะ ซึ่งช่วยบันทึกข้อมูลการมีส่วนร่วมของแฟน ๆ บนเครือข่ายอย่างเป็นทางการ เพิ่มความผูกพันระหว่างแฟนกับศิลปิน
อย่างไรก็ตาม เว็บ3 ไม่สามารถแก้ไขทุกปัญหาในอุตสาหกรรมบันเทิงได้โดยลำพัง แผนการตลาดแบบดั้งเดิมและการสร้างแบรนด์ของศิลปินยังคงมีความสำคัญ และตลาด NFT และโทเคนที่มีความผันผวนสูงอาจส่งผลเสียต่อประสบการณ์ของแฟนคลับ
ไทเกอร์ รีเสิร์ช ตั้งข้อสังเกตว่า หากเว็บ3 ต้องการประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมบันเทิง ต้องลดอุปสรรคด้านเทคนิคและมุ่งเน้นที่ ‘คุณค่าที่จับต้องได้’ สำหรับผู้ใช้แทนการเน้นนวัตกรรมมากเกินไป การออกแบบแพลตฟอร์มที่ช่วยให้แฟนคลับสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เทคโนโลยีนี้ได้รับการยอมรับในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0