มิมคอยน์จากมีมออนไลน์สู่สินทรัพย์ทางการเงิน – ความท้าทายและอนาคตข้างหน้า
มิมคอยน์ได้ก้าวข้ามจากการเป็นเพียง ‘มีมบนอินเทอร์เน็ต’ มาสู่สินทรัพย์ทางการเงินที่มีอิทธิพลอย่างมากในตลาดคริปโต ความสำเร็จของมิมคอยน์นั้นอาศัยการมีส่วนร่วมของ ‘คอมมูนิตี้’ และพลังของ ‘ไวรัลเอฟเฟกต์’ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่ลดความเป็น 'การเก็งกำไร' และนำระบบ ‘การกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจ’ มาใช้ ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจ
ปัจจุบัน มิมคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่กลายเป็นตัวแปรสำคัญของตลาดคริปโต เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มิมคอยน์คิดเป็น ‘65% ของปริมาณการซื้อขาย’ บนเรเดียม(Raydium) ซึ่งเป็นกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าการเติบโตเช่นนี้จะดึงดูดนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก แต่ ‘ความผันผวนสูง’ และ ‘ลักษณะการเก็งกำไร’ ทำให้เกิดข้อกังขาเกี่ยวกับความยั่งยืนของสินทรัพย์ในประเภทนี้
คุณค่าของมิมคอยน์แตกต่างจากสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ‘โมเดลการสร้างรายได้ที่จับต้องได้’ หรือ ‘การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน’ แต่เกิดจาก ‘พลังของคอมมูนิตี้’ และ ‘ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ถือครอง’ ความสามารถในการแพร่กระจายบนโซเชียลมีเดียและพลังของวัฒนธรรมมีมส่งผลให้มูลค่าพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกัน หากตลาดเกิดความเปลี่ยนแปลง อาจนำมาสู่การร่วงลงอย่างรุนแรง ดังที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ ‘อีลอน มัสก์(Elon Musk)’ เปลี่ยนรูปโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้มูลค่าตลาดของมิมคอยน์ที่เกี่ยวข้องร่วงจาก 380 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13,800 ล้านบาท) เหลือเพียง ‘100 ล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท)
เพื่อลดความผันผวน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ‘การนำ DAO (องค์กรอิสระบนบล็อกเชน)’ มาใช้จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดความเสี่ยงจากการปั่นราคา DAO ช่วยให้ผู้ถือโทเค็นเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนด ‘ทิศทางของโปรเจกต์’ และ ‘นโยบายด้านอุปทาน’ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการแทรกแซงโดยบุคคลภายใน ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ ‘โฟลกิ อินุ(FLOKI)’ ที่พยายามสร้าง ‘ระบบอีโคซิสเต็มที่ยั่งยืน’ ผ่านการพัฒนาเกม NFT ระบบการชำระเงิน และโปรเจกต์เพื่อการศึกษา
ขณะนี้ มิมคอยน์อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บางฝ่ายมองว่า ‘มิมคอยน์เป็นเพียงกระแสเก็งกำไรที่ไม่นานก็จางหาย’ ในขณะที่บางฝ่ายเชื่อว่า ‘นี่คือแนวโน้มการลงทุนใหม่ที่ไม่มีวันหายไป’ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้าง ‘โครงสร้างการกำกับดูแลที่ชัดเจน’ และช่วยให้มิมคอยน์สามารถเปลี่ยนจากสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรระยะสั้นมาเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ นักพัฒนา นักลงทุน และหน่วยงานกำกับดูแลต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้มิมคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘เรื่องตลกบนอินเทอร์เน็ต’ แต่กลายเป็นขุมพลังที่แท้จริงของตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0