หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปกำลังตรวจสอบว่า ‘บริการ Web3 ของ OKX’ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แฮ็ก ‘บายนานซ์(Bybit)’ หรือไม่
คณะกรรมการด้านการเงินดิจิทัล ภายใต้สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ยุโรป (ESMA) ได้ประชุมเมื่อวันที่ 6 เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่แพลตฟอร์ม Web3 ของ OKX อาจถูกใช้ในการฟอกเงินผ่านคริปโตเคอร์เรนซี โดยหน่วยงานกำกับดูแลจากออสเตรียและโครเอเชียระบุว่าบริการ Web3 ของ OKX อาจอยู่ภายใต้ขอบเขตของ ‘กฎหมายตลาดสินทรัพย์คริปโต (MiCA)’ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2024 ที่มุ่งเสริมสร้างกฎระเบียบสำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลในสหภาพยุโรป
ตามรายงานของ Bloomberg แฮ็กเกอร์คาดว่าใช้แพลตฟอร์ม Web3 ของ OKX ในการฟอกเงินจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกขโมยไปมูลค่าราว ‘100 ล้านดอลลาร์’ โดยมีการกล่าวหาว่าบริการด้าน ‘การเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi)’ และ ‘กระเป๋าเงินแบบควบคุมตนเอง’ ของ OKX อาจถูกนำไปใช้ในกระบวนการดังกล่าว ที่ประชุมยังพิจารณาว่า OKX ดำเนินการ Web3 ในลักษณะรวมศูนย์หรือไม่ และว่าบริษัทสาขาในสิงคโปร์มีบทบาทในเรื่องนี้หรือไม่
OKX ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยชี้แจงว่า “บริการกระเป๋าเงิน Web3 และคุณสมบัติการแลกเปลี่ยนเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และไม่ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย” บริษัทฯ ยังเน้นว่ามีการดำเนินมาตรการตอบโต้ อาทิ ‘การระงับเงินที่เชื่อมโยงกับเหตุแฮ็ก’ บนแพลตฟอร์มซื้อขายของตนเอง และ ‘บล็อกที่อยู่กระเป๋าเงินของแฮ็กเกอร์’
นอกจากนี้ OKX ยังโจมตี Bybit ว่า “เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ” และยืนยันว่าการประชุมดังกล่าวเป็น ‘การหารือด้านนโยบายเกี่ยวกับตลาด DeFi’ มากกว่าการสืบสวนที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทโดยตรง พร้อมโต้แย้งว่าปัญหาหลักเกิดจาก ‘ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Bybit เอง’
ผลลัพธ์ของการตรวจสอบครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อนอกเหนือจาก OKX โดยอาจทำให้ผู้ให้บริการ DeFi รายอื่นต้องเผชิญความเข้มงวดด้านกฎระเบียบภายใต้ข้อบังคับ MiCA ของสหภาพยุโรป
ความคิดเห็น 0