ไบแนนซ์ยูเอส(BinanceUS) ประกาศเริ่มต้นการรองรับ ‘เบส’(Base) อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้สามารถฝากและถอนผ่านเครือข่ายเบส ด้วยบิตคอยน์(ETH) และ USD คอยน์(USDC) ได้โดยตรงแล้ว การเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนความพยายามของแพลตฟอร์มในการเชื่อมต่อกับโครงข่ายเลเยอร์2 ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 25 ไบแนนซ์ยูเอส เปิดเผยว่าได้เริ่มต้นรองรับเครือข่ายเบสแล้ว โดยอนุญาตให้มีการทำธุรกรรมฝาก-ถอนของสินทรัพย์อย่าง *อีเธอเรียม(ETH)* และ *USD คอยน์(USDC)* ผ่านโครงข่ายดังกล่าว พร้อมเสริมว่าจะมีการขยายการรองรับเหรียญอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต
‘เบส’ เป็นโซลูชันเลเยอร์2 ที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายอีเธอเรียม ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2023 โดยมีจุดเด่นคือไม่ใช้โทเคนของตนเองในการทำธุรกรรม แต่ใช้ *อีเธอเรียม(ETH)* เป็นค่าธรรมเนียมก๊าซแทน ซึ่งถือว่าแตกต่างและเน้นประสบการณ์ที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
จากข้อมูลของ IntoTheBlock พบว่าจำนวนผู้ใช้ที่ดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายเบสเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เบสถือครองสัดส่วนของที่อยู่กระเป๋าเงินที่ใช้งานได้สูงถึง 63% และขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 82% แล้ว อีกทั้งจำนวนที่อยู่ที่ใช้งานรายวันยังทะลุ 1 ล้านแอดเดรส และจำนวนธุรกรรมรายวันก็เกิน 4 ล้านรายการ
นอกจากนี้ มูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้(TVL) ในเครือข่ายเบสก็พุ่งสูงถึง 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.9 ล้านล้านวอน ตอกย้ำถึงการเติบโตของกิจกรรมบนเชนที่ต่อเนื่องและมั่นคง
ชุมชนคริปโตให้การตอบรับเชิงบวกต่อการสนับสนุนเครือข่ายเบสของไบแนนซ์ยูเอส โดยผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนชื่อดัง ‘เวลเวต ยูนิคอร์น’ (Velvet Unicorn) แสดงความคิดเห็นว่า "นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เหล่าสถาบันกำลังให้ความสนใจต่อโครงข่ายเลเยอร์2 มากขึ้นเรื่อย ๆ" พร้อมเสริมว่า “การสนับสนุนเพียงแค่ *ETH และ USDC* เป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะความเป็นไปได้ในระบบนิเวศของเบสยังเปิดกว้าง”
ด้วยการเติบโตของโปรเจกต์ DeFi และการขยายฟังก์ชันการเชื่อมข้ามเชน (Cross-chain Bridge) เบสกำลังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของอุตสาหกรรมบล็อกเชนอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0