บิตคอยน์(BTC) ทะลุ 105,000 ดอลลาร์ จับตาตัวเลข CPI สหรัฐชี้ทิศทางตลาด

บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างน่าจับตา โดยล่าสุดทะลุระดับ *105,000 ดอลลาร์* ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ความสนใจของตลาดกำลังจับจ้องไปยังตัวเลข ‘ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)’ เดือนเมษายนของสหรัฐ ซึ่งจะประกาศในวันที่ 12 นี้ (เวลาท้องถิ่น) ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน เช่น ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

สำหรับตัวเลข CPI เดือนเมษายน นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น *2.3%* เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงเล็กน้อยจากตัวเลข *2.4%* ของเดือนมีนาคม ขณะที่ ‘อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน’ คาดว่าจะอยู่ที่ *2.8%* นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นข้อมูลแรกที่จะสะท้อนให้เห็น *ผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน* ที่ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งประกาศไปไม่นานมานี้

ในฝั่งตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเพียง *1.3%* สะท้อนมุมมองระมัดระวังของนักลงทุน ส่วนประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ยังคงยืนกรานต่อจุดยืนเดิมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย โดยไม่มีสัญญาณชัดเจนเรื่องการลดดอกเบี้ยในเร็ววัน จากข้อมูลของ CME FedWatch ตลาดประเมินความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ไม่ถึง *15%*

ด้านเทคนิค การเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ดูสดใส โดยสัญญาณ MACD รายสัปดาห์ พลิกกลับเป็นบวก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ซึ่งก่อนหน้านั้นเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะตลาดกระทิงเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การที่ราคายังไม่สามารถปิดตลาดเหนือ *104,500 ดอลลาร์* ได้ อาจเป็นข้อจำกัดต่อโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น

แนวโน้มราคาหลังการประกาศตัวเลข CPI อาจแบ่งออกได้เป็น *3 กรณี* ได้แก่ หาก CPI ต่ำกว่า *2.3%* อาจเพิ่มความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งสามารถช่วยดันราคาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ในกรณีที่ตัวเลขสูงกว่า *2.4%* ตลาดอาจกังวลเรื่องเงินเฟ้อและนำไปสู่การปรับฐาน ขณะที่หากสอดคล้องกับคาดการณ์ ราคาน่าจะเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับปัจจุบัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้บิตคอยน์จะทะลุหลัก *100,000 ดอลลาร์* ได้เป็นครั้งแรก แต่ความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยยังอยู่ในระดับต่ำ ข้อมูลจาก *Google Trends* แสดงว่าจำนวนการค้นหาเกี่ยวกับบิตคอยน์อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ดัชนีความกลัวและความโลภของตลาดคริปโตอยู่ที่ระดับ *70* ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแม้ *98% ของบิตคอยน์ที่ถืออยู่อยู่ในสถานะกำไร* แต่ตลาดยังไม่เข้าสู่ภาวะความร้อนแรงเกินไปตามความเห็นของนักวิเคราะห์หลายฝ่าย