ชาโตชิ(Chateaushi) เปิดขายโทเคน CASL ปฏิวัติมรดกโลกสู่สินทรัพย์ดิจิทัลผ่านบล็อกเชน

แพลตฟอร์มเทคโนโลยี ‘ชาโตชิ(Chateaushi AG)’ ซึ่งมุ่งเน้นในการแปลงค่าทางประวัติศาสตร์ของอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน(Financialization) พร้อมเปิดทางให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และสร้างรายได้ ได้ประกาศเปิดการขายโทเคนสาธารณะสำหรับโปรเจกต์สินทรัพย์เสมือนจริง(RWA)

หลังจากใช้เวลากว่า 4 ปีในการพัฒนา ชาโตชิได้กลายเป็นตลาดเทคโนโลยีแบบขยายได้ที่รองรับโอกาสเชิงพาณิชย์และการเงินสำหรับทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในยุโรป ชาโตชิได้เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ที่เติมเต็มช่องว่างของระบบธนาคารดั้งเดิมและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเข้าถึงเจ้าของปราสาทและอาคารเก่าแก่ได้

บริตทานี ไคเซอร์(Brittany Kaiser) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วมของชาโตชิ ระบุว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันวิสัยทัศน์ของเราสู่ชุมชนที่กว้างขึ้น ด้วยการเปิดการขายโทเคนสาธารณะ นี่คือก้าวสำคัญของภารกิจในการปฏิวัติการเงิน การอนุรักษ์ และประสบการณ์ของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์”

โทเคนยูทิลิตี้ ‘CASL’ จะเป็นตัวขับเคลื่อนระบบนิเวศของแพลตฟอร์มผ่านแอปพลิเคชันมาร์เก็ตเพลซแบบกระจายศูนย์ ผู้ถือโทเคนสามารถใช้จองประสบการณ์ในเครือข่ายกว่า 100 อาคารเก่าแก่ทั่วยุโรป พร้อมทั้งรับสิทธิพิเศษแบบ VIP เช่น เข้าร่วมคลับเอกชนและเข้าใช้สถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถใช้โทเคนในการชำระเงินผ่าน ‘บัตรชาโตชิ’ ซึ่งมีกำหนดเปิดใช้งานในไตรมาส 3 ปี 2025

ในปัจจุบัน ชาโตชิได้รวมพันธมิตรด้านอสังหาริมทรัพย์กว่า 100 แห่งในสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และอิตาลี รวมถึงได้รับการติดต่อจากพันธมิตรที่สนใจมากกว่า 500 ราย อีกทั้งยังจับมือกับแบรนด์พรีเมียมอย่าง ‘เฟโดรา(FEDORA)’ ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงโอเปราและคณะบัลเลต์ชั้นนำกว่า 200 แห่งทั่วยุโรป รวมถึง ‘ครู๊ก แชมเปญ(Krug Champagne)’ เพื่อเพิ่มมูลค่าประสบการณ์ให้กับผู้ใช้

การขายโทเคนรอบพรีเซลจะเริ่มขึ้นในวันที่ 13 พฤษภาคม และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีการจัดสรรโทเคนครบถ้วน จากนั้นผู้ถือสามารถใช้ CASL ภายในแอปฯ และทำการซื้อขายได้ในตลาดอย่างเป็นทางการ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของชาโตชิเพื่อรับข้อมูลการเข้าร่วมเพิ่มเติมทางอีเมลหลังวันที่ 13

‘ชาโตชิ’ กำลังสร้างนิยามใหม่ของการอนุรักษ์และการเข้าถึงมรดกโลกผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล การแปลงอสังหาริมทรัพย์ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลกของสินทรัพย์เสมือนจริง ความคิดเห็น: แนวคิดนี้ไม่เพียงสร้างรายได้จากมรดกโลก แต่ยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนในการรักษาสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่กำลังเลือนหาย